ad
 
   

ข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา

สงขลา

นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ เมืองใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานป๋า ศูนย์การค้าแดนใต้

เมืองสงขลามีชื่อเดิมว่า เมืองสทิงตั้งอยู่ที่อำเภอสทิงพระปัจจุบัน พ่อค้าชาวอินเดีย เปอร์เซียและอาหรับที่เดินทางเข้ามาค้าขายที่เมืองสทิงพระเรียกเมืองนี้ว่า เมืองสิงหลาเนื่องจากขณะแล่นเรือเข้าปากทะเลสาบสงขลานั้น มองเห็นเกาะสองเกาะคล้ายสิงห์หมอบอยู่ ๒ ตัว เกาะสองเกาะนี้คือ เกาะหนู เกาะแมว นั่นเอง

สงขลา เป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย มีพื้นที่ติดต่อกับรัฐเคดาห์(ไทรบุรี)ของมาเลเซีย เป็นเมืองท่าและเมืองชายทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคใต้มาแต่สมัยโบราณ มีโบราณสถานและโบราณวัตถุมากมาย อีกทั้งมีขนบธรรมเนียมประเพณี ภาษาและการละเล่นพื้นเมืองที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของบรรพบุรุษตกทอดให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษามากมาย สงขลามีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่เป็นชายทะเล น้ำตก ทะเลสาบที่สวยงาม

อำเภอหาดใหญ่เป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคม เป็นเมืองชุมทางของภาคใต้มีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันอำเภอเมืองสงขลายังคงมีสภาพบ้านเมืองที่เก่าแก่อันเป็นเอกลักษณ์ สงขลาจึงเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะแก่การท่องเที่ยวเพราะมีลักษณะที่แตกต่างกันในตัว ๒ ลักษณะคือ สภาพเก่าแก่ของบ้านเมืองสงขลาและความเจริญของเมืองหาดใหญ่ ด้วยระยะทางห่างกันประมาณ ๓๐ กิโลเมตร

จังหวัดสงขลา ครอบคลุมพื้นที่ ๗,๓๙๓ ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย ๑๖ อำเภอคือ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ อำเภอสิงหนคร อำเภอควนเนียง อำเภอรัตภูมิ อำเภอบางกล่ำ อำเภอหาดใหญ่ อำเภอนาหม่อม อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอสะเดา และอำเภอคลองหอยโข่ง

อาณาเขต

ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และอ่าวไทย

ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดยะลา และประเทศมาเลเซีย

ทิศตะวันออก ติดต่อกับอ่าวไทย และจังหวัดปัตตานี

ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดพัทลุง และจังหวัดสตูล

การเดินทาง

รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข ๔ ผ่านประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช-ตรัง-พัทลุง-สงขลา รวมระยะทาง ๙๕๐ กิโลเมตร

รถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดบริการเดินรถระหว่าง กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ทุกวัน ทั้งรถด่วนและรถเร็ว สอบถามรายละเอียดได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง โทร. ๑๖๙๐, ๐ ๒๒๒๓ ๗๐๑๐, ๐ ๒๒๒๓ ๗๐๒๐ หรือที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ โทร. ๐ ๗๔๒๔ ๓๗๐๕, ๐ ๗๔๒๓ ๘๐๐๕

รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทาง กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ และกรุงเทพฯ-สงขลาบริการทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๓ ชั่วโมง สอบถามเพิ่มเติมติดต่อขนส่งสายใต้ โทร. ๐ ๒๔๓๕ ๑๑๙๙-๒๐๐ (ปรับอากาศ) และ โทร. ๐ ๒๔๓๔ ๕๕๕๗- (รถธรรมดา) หรือหาดใหญ่ ติดต่อบริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. ๐ ๗๔๒๓ ๒๗๘๙, ๐ ๗๔๒๓ ๒๔๐๔ บริษัท ปิยะทัวร์ จำกัด โทร. ๐ ๗๔๔๒ ๘๙๗๒ บริษัท ไทยเดินรถ จำกัด โทร. ๐ ๗๔๔๒ ๙๕๒๕

เครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด และบริษัท แอร์เอเซีย จำกัด มีบริการเครื่องบินโดยสาร กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ทุกวัน ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัทการบินไทย โทร. ๑๕๖๖, ๐ ๒๒๘๐ ๐๐๖๐, ๐ ๒๖๒๘ ๒๐๐๐ หรือสำนักงานการบินไทยหาดใหญ่ โทร. ๐ ๗๔๒๔ ๕๘๕๑-, ๐ ๗๔๒๓ ๓๔๓๓ และบริษัทแอร์เอเซีย จำกัด โทร. ๐ ๒๕๑๕ ๙๙๙๙ หรือสำนักงานแอร์เอเซียหาดใหญ่ โทร. ๐ ๗๔๒๕ ๐๔๔๐

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในภาคใต้ โดยขึ้นรถที่สถานีเดินรถที่อำเภอหาดใหญ่ บริษัท โพธิ์ทองขนส่ง จำกัด โทร. ๐ ๗๔๓๑ ๑๑๒๖ (เดินรถระหว่างสงขลา-หาดใหญ่) บริษัท ระโนด ขนส่ง โทร. ๐ ๗๔๓๑ ๑๕๒๓ (เดินรถระหว่างสงขลา-นครศรีธรรมราช)

ระยะทางจากตัวเมืองไปยังอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดสงขลา

อำเภอสิงหนคร ๒๖ กิโลเมตร

อำเภอหาดใหญ่ ๒๖ กิโลเมตร

อำเภอนาหม่อม ๓๔ กิโลเมตร

อำเภอสทิงพระ ๓๖ กิโลเมตร

อำเภอจะนะ ๓๗ กิโลเมตร

อำเภอคลองหอยโข่ง ๔๓ กิโลเมตร

อำเภอบางกล่ำ ๔๖ กิโลเมตร

อำเภอนาทวี ๕๒ กิโลเมตร

อำเภอรัตภูมิ ๖๐ กิโลเมตร

อำเภอสะเดา ๗๐ กิโลเมตร

อำเภอควนเนียง ๗๒ กิโลเมตร

อำเภอเทพา ๗๓ กิโลเมตร

อำเภอระโนด ๗๓ กิโลเมตร

อำเภอกระแสสินธุ์ ๗๔ กิโลเมตร

อำเภอสะบ้าย้อย ๑๐๔ กิโลเมตร

ระยะทางระหว่างอำเภอหาดใหญ่กับจังหวัดใกล้เคียง

สตูล ๙๗ กิโลเมตร

พัทลุง ๑๐๕ กิโลเมตร

ปัตตานี ๑๓๒ กิโลเมตร

ยะลา ๑๔๖ กิโลเมตร

ตรัง ๑๗๐ กิโลเมตร

นครศรีธรรมราช ๑๘๙ กิโลเมตร

นราธิวาส ๒๒๖ กิโลเมตร

สุราษฎร์ธานี ๓๔๐ กิโลเมตร

ภูเก็ต ๔๕๐ กิโลเมตร

สถานที่น่าสนใจ

อำเภอเมืองสงขลา

อำเภอเมืองไม่เป็นศูนย์กลางทางการค้าเหมือนกับอำเภอหาดใหญ่ แต่เป็นอำเภอที่มีความการดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย เมืองค่อนข้างจะเงียบ มีตึกเก่าโบราณที่ยังคงความสมบูรณ์สร้างแบบชิโน-โปรตุกีส เหมือนในจังหวัดภูเก็ตตามถนนนครใน นครนอก นางงาม และยะลา มี ศาลหลักเมือง ที่เก่าแก่สร้างขึ้นมาพร้อมกับการสร้างเมืองสงขลา อยู่ที่ถนนนางงาม และที่ถนนนางงามยังเป็นถนนที่มีอาหารพื้นเมืองและขนมไทย ๆ ฝีมือชาวบ้านให้ได้ชิมและหาซื้อเป็นของฝาก เช่นขนมสำปะนี ขนมทองม้วน ขนมทองพลับ หรือแม้แต่เต้าฮวย ที่ขายมากว่า ๕๐ ปี ก็มีให้ได้รับประทานกัน อยู่ตรงข้ามศาลหลักเมือง และยังมีข้าวสตู ฝีมือดั้งเดิมให้ได้ลิ้มลองอีกด้วย

วัดมัชฌิมาวาส (วัดกลาง) อยู่ที่ถนนไทรบุรี เป็นวัดใหญ่และสำคัญที่สุดในจังหวัดสงขลา อายุ ๔๐๐ ปี สร้างตอนปลายอยุธยา เดิมเรียกว่าวัดยายศรีจันทร์ กล่าวกันว่ายายศรีจันทร์ คหบดีผู้มั่งคั่งในเมืองสงขลาได้อุทิศเงินสร้างขึ้น ต่อมามีผู้สร้างวัดเลียบ ทางทิศเหนือ และวัดโพธิ์ ทางทิศใต้ ชาวสงขลาจึงเรียกวัดยายศรีจันทร์ว่า วัดกลางและได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดมัชฌิมาวาสโดยพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นวชิรญาณวโรรสคราวเสด็จเมืองสงขลาเมื่อ พ.. ๒๔๓๑ ในวัดมีโบราณสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิ พระอุโบสถ สร้างสมัยรัชกาลที่ ๑ เป็นศิลปะประยุกต์ไทย-จีน ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เช่น ภาพท่าเรือสงขลาที่หัวเขาแดงที่มีการค้าขายกันคึกคัก ซุ้มประตู เป็นศิลปะจีนกับยุโรป และมีพิพิธภัณฑ์ ภัทรศิลปเป็นที่เก็บพระพุทธรูป วัตถุโบราณ ซึ่งรวบรวมมาจากเมืองสงขลา สทิงพระ ระโนด ซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ควรค่าแก่การศึกษา เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันจันทร์-อังคารและวันหยุดราชการ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๖.๐๐ น.

เจดีย์พระบรมธาตุวัดชัยมงคล อยู่ภายในบริเวณวัดชัยมงคล ถนนเพชรมงคล-ชัยมงคล เมื่อ พ.. ๒๔๓๕ พระอาจารย์สอนบาลีในวัดชัยมงคลนามว่า นะ อิศโรเดินทางไปลังกาและมีโอกาสรู้จักกับคหบดีผู้หนึ่งซึ่งยินดีถวายพระธาตุให้แก่ท่านนะ อิศโรอธิษฐาน เมื่อกลับมาสงขลาท่านได้สร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมธาตุให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะจนถึงทุกวันนี้ บริเวณพระบรมธาตุ จะเปิดให้เข้าชมเวลา ๙.๐๐๑๗.๐๐ น.

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ตั้งอยู่ที่ถนนวิเชียรชม เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน อายุกว่า ๑๐๐ ปี เดิมเป็นบ้านพักส่วนตัวของพระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา สร้างเมื่อ พ.. ๒๔๒๑ จนกระทั่งปี พ.. ๒๔๓๗ จึงใช้เป็นที่พำนักและว่าราชการของพระวิจิตรวรศาสตร์ ข้าหลวงพิเศษตรวจราชการเมืองสงขลา ซึ่งต่อมาก็คือเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) หลังจากนั้นใช้เป็นศาลาว่าการมณฑลนครศรีธรรมราชและเป็นศาลากลางจังหวัดจนถึงปี พ.. ๒๔๙๖

ในปี พ.. ๒๕๑๖ กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนอาคารนี้เป็นโบราณสถานและปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.. ๒๕๒๕ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปวัตถุภาคใต้ตอนล่าง และเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ทางด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ชาติพันธุ์วิทยา ศิลปะจีน ศิลปะพื้นบ้านพื้นเมือง อาทิ บานประตูไม้เดิมของจวน เป็นศิลปะพุทธศตวรรษที่ ๒๔ ทำด้วยไม้จำหลักเขียนสีและประดับมุกฝีมือช่างชาวจีนชั้นครู แสดงออกถึงคตินิยมในธรรมเนียมประเพณี วรรณคดี ศาสนาตามแบบจีนที่วิจิตรงดงามยังความสมบูรณ์อยู่มาก โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์แหล่งโบราณคดีจากบ้านเชียง และกาญจนบุรี เปิดให้เข้าชมวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๔๓๑ ๑๗๒๘

พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์ (พะธำมะรง) ตั้งอยู่ที่ถนนจะนะใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบ้านพักเดิมของรองอำมาตย์โทขุนวินิจทัณฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์) บิดาของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พิพิธภัณฑ์ฯ เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรือนไทยที่สร้างขึ้นเพื่อจำลองสถานที่เกิดของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษซึ่งเป็นชาวจังหวัดสงขลา จากคำบอกเล่าความทรงจำในอดีตสมัยที่บิดาของท่านดำรงตำแหน่งพัสดีเรือนจำสงขลา พะทำมะรงเป็นตำแหน่งเก่าของข้าราชการกรมราชทัณฑ์ ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีควบคู่กับตำแหน่งพัสดีปรากฎหลักฐานอยู่ในกฎหมายตราสามดวง และอัยการลักษณะต่าง ๆ ตำแหน่งพะทำมะรงได้ใช้ติดต่อกันมาตลอดจนได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.. ๒๔๗๙ ตำแหน่งพะทำมะรงจึงได้ถูกยกเลิกไป พิพิธภัณฑ์ฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันเว้นวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา ๐๘.๓๐๑๖.๐๐ น.

บ้านศรัทธา เป็นบ้านที่ชาวสงขลาพร้อมใจกันสร้างเพื่อมอบให้กับ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและรัฐบุรุษ ในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สร้างเสร็จเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๓๔ ต่อมาท่านได้มอบบ้านศรัทธานี้คืนให้กับชาวสงขลาเมื่อปี พ.. ๒๕๓๙ พร้อมกันนี้ทางจังหวัดสงขลาได้จัดสร้างอาคารหอสมุดกาญจนาภิเษกขึ้น ตรงเชิงเขาใกล้กับบ้านศรัทธาและเปิดเป็นที่ศึกษาค้นคว้า บ้านศรัทธาตั้งอยู่บนเนินเขา รายรอบด้วยสวนมะพร้าว สามารถมองเห็นทัศนียภาพถึงสะพานติณสูลานนท์ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ ๓ กิโลเมตร

แหลมสมิหลา อยู่ในเขตเทศบาลเมือง ห่างจากตลาดทรัพย์สิน (ตลาดสดเทศบาล) ประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร มีหาดทรายขาวสะอาด ทิวสนร่มรื่น รูปปั้นนางเงือกอันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสงขลา และรูปปั้นหนูแมว โดยรอบบริเวณได้จัดสวนหย่อมไว้ดูร่มรื่นเหมาะเป็นที่นั่งพักผ่อนยามเย็น เมี่อมองออกไปในทะเลจะเห็น เกาะหนูเกาะแมว อันเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของแหลมสมิหลา ที่มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า มีพ่อค้าชาวจีนผู้หนึ่งคุมเรือสำเภาเดินทางมาค้าขายระหว่างจีนกับสงขลาเป็นประจำ วันหนึ่งพ่อค้าผู้นี้ได้ซื้อหมากับแมวลงเรือไปเมืองจีนด้วย หมากับแมวอยู่บนเรือนานๆเกิดความเบื่อหน่ายจึงปรึกษาหาวิธีการที่จะกลับบ้าน หมากับแมวได้ทราบว่าพ่อค้ามีดวงแก้ววิเศษที่ทำให้ไม่จมน้ำ แมวจึงคิดอุบายโดยให้หนูไปขโมยแก้ววิเศษของพ่อค้ามา และหนูขอหนีขึ้นฝั่งไปด้วย ทั้งสามว่ายน้ำหนีลงจากเรือโดยที่หนูอมดวงแก้วเอาไว้ในปาก ขณะนั้นหนูนึกขึ้นได้ว่าถ้าถึงฝั่ง หมากับแมวคงจะแย่งเอาดวงแก้วไปจึงคิดที่จะหนี ฝ่ายแมวซึ่งว่ายตามหลังมาก็คิดเช่นกัน จึงว่ายน้ำรี่ไปหาหนู หนูตกใจว่ายน้ำหนีไม่ทันระวังตัว ดวงแก้ววิเศษที่อมไว้จึงตกลงจมหายไปในน้ำ หนูและแมวต่างก็หมดแรงจมน้ำตายกลายเป็นเกาะหนูเกาะแมวอยู่ที่อ่าวหน้าเมือง ส่วนหมาตะเกียกตะกายว่ายน้ำไปจนถึงฝั่งและสิ้นใจตายด้วยความเหน็ดเหนื่อยกลายเป็นหินบริเวณเขาตังกวนอยู่ริมอ่าวสงขลา ดวงแก้ววิเศษที่หล่นจากปากหนูแตกละเอียดกลายเป็นหาดทรายแก้วอยู่ทางด้านเหนือของแหลมสน

การเดินทาง จากอำเภอหาดใหญ่สามารถใช้บริการรถประจำทางสายหาดใหญ่-สงขลา แต่หากอยู่ในอำเภอเมืองก็มีรถสองแถวบริการไปชายหาด

เขาตังกวน เป็นเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๒,๐๐๐ ฟุต บนยอดเขาตังกวนเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์พระธาตุคู่เมืองสงขลา ซึ่งสร้างในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช เป็นศิลปะสมัยทวารวดี ในเดือนตุลาคมของทุกปีจะมีพิธีห่มผ้าองค์พระเจดีย์ ประเพณีลากพระและตักบาตรเทโว และบนยอดเขายังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองสงขลาและทะเลสาบสงขลาได้ และก่อนถึงยอดเขาตังกวนจะมีศาลาวิหารแดง (พลับพลาที่ประทับ) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระยาวิเชียรคีรี (ชม) ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลาในสมัยนั้น สร้างพลับพลานี้ถวายตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ..๒๔๓๑

เทศบาลนครสงขลา สร้างลิฟท์ขึ้นเขาตังกวน และเปิดให้บริการเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถานีลิฟท์เขาตังกวน เทศบาลนครสงขลา โทร. ๐ ๗๔๓๑ ๖๓๓๐

แหลมสนอ่อน อยู่บริเวณแหลมสมิหลา ร่มรื่นไปด้วยทิวสนทะเล บริเวณปลายแหลมเป็นที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล จังหวัดสงขลา ได้แก่ ผู้ประกอบอาชีพอันเกี่ยวเนื่องกับการปกครอง ร่วมกับกองทัพเรือ สร้างเมื่อปี พ..๒๕๓๐ เพื่อให้ชาวเรือได้สักการะบูชาก่อนออกไปประกอบอาชีพในทะเล จากแหลมสนอ่อนสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของทะเลสาบสงขลา และมองเห็นเกาะหนูได้ใกล้และชัดที่สุด รอบ ๆ บริเวณมีที่นั่งพักผ่อนยามเย็นสำหรับประชาชน

เขาน้อย อยู่ใกล้กับแหลมสมิหลา มีถนนลาดยางขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อสักการะอนุสาวรีย์กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ และชมทิวทัศน์ของเมืองสงขลา เชิงเขาน้อยเป็นสวนสาธารณะมีไม้ประดับตกแต่งเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ไว้ให้ชมและเป็นที่พักผ่อน

ตำหนักเขาน้อย ตั้งอยู่เชิงเขาน้อยทางทิศใต้ ถนนสะเดา สร้างเมื่อ พ.. ๒๔๕๔ เพื่อเป็นที่ประทับของเจ้าฟ้ายุคลฆัมพร (กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์) เมื่อครั้งมาดำรงตำแหน่งสมเด็จอุปราชมณฑลปักษ์ใต้ เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าบรมราชินีนาถฯ ในคราวเสด็จเยี่ยมราษฎรในจังหวัดภาคใต้ เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๐๒ ปัจจุบันใช้เป็นจวนผู้ว่าราชการจังหวัด

เขาเก้าเส้ง ห่างจากหาดสมิหลาประมาณ ๓ กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางไปสถาบันเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งแห่งชาติ มีตำนานเล่าถึงเขาเก้าเส้ง หรือที่เรียกกันในภาษาพื้นเมืองว่า หัวนางแรงว่า ครั้งนั้นทางเมืองนครศรีธรรมราชกำหนดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์ และจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่โต บรรดา ๑๒ หัวเมืองปักษ์ใต้ต่างก็นำเงินทองไปบรรจุในพระบรมธาตุ เมืองที่นายแรงเป็นเจ้าเมืองก็เป็นเมืองขึ้นนครศรีธรรมราชด้วย ประกอบกับนายแรงมีความศรัทธาในพุทธศาสนา จึงขนเงินทองเป็นจำนวนมากถึงเก้าแสนบรรทุกเรือสำเภา พร้อมด้วยไพร่พลออกเดินทางไปเมืองนครศรีธรรมราช ขณะกำลังเดินทางเรือสำเภาถูกคลื่นลมชำรุด จึงเข้าจอดเรือที่ชายฝั่งหาดทรายแห่งหนึ่ง เพื่อซ่อมแซมเรือ พอได้ทราบข่าวว่าทางเมืองนครศรีธรรมราชได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเสร็จแล้ว นายแรงเสียใจมาก จึงให้ไพร่พลขนเงินทองบรรจุไว้บนยอดเขาลูกหนึ่ง สั่งให้ลูกเรือตัดหัวของตนไปวางไว้ที่ยอดเขา นายแรงกลั้นใจตาย ลูกเรือต้องจำใจตัดหัวเจ้านายไปวางไว้บนยอดเขาตามคำสั่ง เขาลูกนี้ภายหลังเรียกว่าเขาเก้าแสนเรียกเพี้ยนไปเป็นเก้าเส้งก้อนหินที่ปิดทับบนยอดเขาเรียกว่าหัวนายแรงชาวบ้านเชื่อว่าดวงวิญญานของนายแรงยังเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์มาจนทุกวันนี้

สวนสัตว์สงขลา เป็นสวนสัตว์เปิดริมถนนสงขลา-จะนะ ตำบลเขารูปช้าง มีเนื้อที่ ๙๑๑ ไร่ มีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และขยายพันธุ์สัตว์ป่าของไทยคืนสู่ธรรมชาติ พื้นที่เป็นภูเขาเล็กๆ หลายลูก มีถนนลาดยางโดยรอบและแยกชนิดสัตว์ไว้เป็นหมวดหมู่ มีสัตว์มากมายหลายชนิด ทั้งที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศและต่างประเทศ เช่น อูฐ นกชนิดต่างๆ วัวแดง เสือ จระเข้ ฯลฯ นอกเหนือจากสัตว์ป่าชนิดต่างๆอันควรค่าแก่การศึกษา สวนสัตว์สงขลายังมีจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ จุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองสงขลา บริเวณนั้นมีร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐-๑๗.๐๐ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๐ ๗๔๓๓ ๖๐๓๘-๔๐

ทะเลสาบสงขลา เป็นทะเลสาบธรรมชาติแห่งเดียวในประเทศไทย มีความยาวจากปากน้ำไปทางทิศเหนือประมาณ ๘๐ กิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดประมาณ ๒๐-๒๕ กิโลเมตร ทะเลสาบสงขลาเป็นทะเลสาบน้ำจืด แต่จะกร่อยในช่วงที่ติดกับทะเล ตรงปากอ่าวในทะเลสาบมีเกาะอยู่หลายเกาะ ที่สำคัญได้แก่ เกาะใหญ่ เกาะสี่ เกาะห้า เกาะแก้ว เกาะหมาก เกาะราย และเกาะยอ นักท่องเที่ยวที่อยากจะเช่าเรือเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ สามารถเช่าเรือได้บริเวณแหลมสนอ่อน

สะพานติณสูลานนท์ เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข ๔๑๔๖ เชื่อมระหว่างทางหลวงหมายเลข ๔๐๗ สายหาดใหญ่-สงขลา กับทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๓ สายสงขลา-ระโนด โดยเป็นสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาจากฝั่งบ้านน้ำกระจายผ่านเกาะยอ ไปฝั่งเขาเขียว เพื่ออำนวยความสะดวกในการคมนาคมให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องรอข้ามแพขนานยนต์ บริเวณฝั่งหัวเขาแดง สะพานแบ่งเป็น ๒ ช่วง ช่วงแรก เชื่อมระหว่างชายฝั่งอำเภอเมือง สงขลา บริเวณบ้านน้ำกระจาย กับชายฝั่งตอนใต้ของเกาะยอ ความยาวรวมเชิงสะพานทั้งสองด้าน ประมาณ ๑,๑๔๐ เมตร ช่วงที่ ๒ เชื่อมระหว่างฝั่งด้านเหนือของเกาะยอกับฝั่งบ้านเขาเขียว ความยาวทั้งสิ้นประมาณ ๑,๘๐๐ เมตร สะพานนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อ ๒๖ มีนาคม ๒๕๒๗ และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๒๙

เกาะยอ เป็นเกาะเล็ก ๆ ในทะเลสาบสงขลา เดินทางโดยข้ามสะพานติณสูลานนท์ ไปตามเส้นทาง จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๗ และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง ๔๐๘๓ ทางไปอำเภอสิงหนคร เกาะยอมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๙,๒๗๕ ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นไหล่เขาและที่ราบตามเชิงเขา เหมาะแก่การเกษตรกรรม บนเกาะยอมีการทำสวนผลไม้แบบสุมรุม หมายถึงผลไม้จะผลัดกันให้ผลผลิตตลอดปี เช่น ส้มโอ มะพร้าว ขนุน ผลไม้ที่มีชื่อของเกาะยอคือ จำปาดะ ลักษณะคล้ายขนุนแต่ลูกเล็กกว่า สามารถนำไปทอดเหมือนกล้วยแขก หรือจะกินสดก็ได้ และผ้าทอเกาะยอ เป็นผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากผู้นิยมสวมใส่ผ้าไทย มีลายที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ลายราชวัติ ดอกพิกุล ดอกพะยอม เนื้อผ้าดูแลรักษาง่าย นอกจากนั้นเกาะยอยังเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังในทะเลสาบสงขลาอีกด้วย

สถาบันทักษิณคดีศึกษา ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ บ้านอ่าวทราย ตำบลเกาะยอ บริเวณใกล้เชิงสะพานติณสูลานนท์ช่วงที่ ๒ สถาบันตั้งขึ้นเมื่อ พ.. ๒๕๒๑ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ มีพื้นที่ทั้งหมด ๒๓ ไร่ ลักษณะของอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบภาคใต้ แบ่งออกเป็น ๔ อาคาร โดยแต่ละอาคารจะแบ่งออกเป็นห้อง ๆ แสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์ โบราณวัตถุที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น เครื่องประดับศาตราวุธที่ใช้กันในภาคใต้ เช่น กริช มีดชายธง มีดหางไก่ แสดงผ้าทอพื้นเมือง เช่น ผ้าทอพุมเรียง ผ้าทอปัตตานี ห้องแสดงกระต่ายขูดมะพร้าวรูปทรงต่าง ๆ ที่มีรูปแบบหาชมได้ยาก ห้องแสดงการละเล่นพื้นเมือง เช่น หนังตะลุง โนรา ลิเกป่า ห้องแสดงวิถีชีวิตชาวใต้ เช่น การแสดงการละเล่นและของเล่นเด็ก เช่น การเล่นซัดราว การเล่นว่าว ลูกข่าง ห้องแสดงประเพณีการบวช ห้องแสดงการรักษาพยาบาลแบบโบราณ สถาบันมีห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยว ห้องสัมมนา และร้านขายสินค้าพื้นเมือง เช่น หัตถกรรมกระจูด หัตถกรรมปาหนัน หัตถกรรมย่านลิเภา ผ้าทอเกาะยอ ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว เครื่องเงิน เป็นต้น สถาบันได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเภทแหล่งท่องเที่ยวดีเด่นทางวัฒนธรรมและโบราณสถาน ปี ๒๕๔๓ จากจุดชมวิวของสถาบันสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบสงขลา เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา ๐๘.๓๐-๑๗.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๔๓๓ ๑๑๘๔

การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองสงขลาประมาณ ๑๘ กิโลเมตร ตามทางหลวงสายลพบุรีราเมศวร์ และเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกบ้านน้ำกระจาย ไปตามทางหลวงสาย ๔๑๔๖ ทางไปเกาะยอ ใกล้สะพานติณสูลานนท์ ช่วง ๒ หรือนั่งรถโดยสารประจำทางจากหอนาฬิกาในตัวเมือง ลงที่สี่แยกบ้านน้ำกระจาย และต่อรถมอเตอร์ไซด์

อำเภอหาดใหญ่

เมืองหาดใหญ่ คำว่า หาดใหญ่เล่ากันว่ามาจากชื่อหาดทรายขาวที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางริมคลองอู่ตะเภา หรืออาจจะมาจากชื่อต้นมะหาดใหญ่ หาดใหญ่อยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ ๒๘ กิโลเมตร เป็นประตูผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย และสิงคโปร์ เนื่องจากอยู่ห่างจากด่านสะเดาเพียง ๖๐ กิโลเมตร หาดใหญ่เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจการค้า การขนส่ง การสื่อสาร การคมนาคม และการท่องเที่ยว หาดใหญ่ถือเป็นสวรรค์ของนักซื้อที่สามารถหาซื้อของต่าง ๆ ได้ในราคาถูก เช่นตลาดสันติสุข จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเสียงราคาถูก ตลาดกิมหยง จำหน่ายของกิน ผลไม้สด และสินค้าผ้าจากเมืองจีน ในราคาที่ต่อรองได้ นอกจากจะเป็นแหล่งซื้อของที่ถูกใจนักซื้อแล้วยังมีร้านอาหารอร่อยและร้านขายรังนกจำหน่ายหลายร้านให้ได้ลิ้มลองรับประทานเพื่อบำรุงกำลังอีกด้วย

สวนสาธารณะเทศบาลเมืองหาดใหญ่ ริมถนนกาญจนวนิช ไปตามเส้นทางหาดใหญ่-สงขลา ห่างจากตัวเมืองหาดใหญ่ ๖ กิโลเมตร เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวหาดใหญ่และอำเภอใกล้เคียง บริเวณสวนตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับอย่างงดงาม มีศาลากลางน้ำ สวนนก มีร้านอาหารไว้บริการ เชิงเขาใกล้กับสวนนกเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ส่วนเชิงเขาด้านทิศใต้ใกล้กับค่ายลูกเสือเป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมหยก และบริเวณยอดเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพรหม

วัดหาดใหญ่ใน ตั้งอยู่ถนนเพชรเกษมใกล้สะพานคลองอู่ตะเภา เป็นที่ประดิษฐานพระนอนขนาดใหญ่ยาว ๓๕ เมตร สูง ๑๕ เมตร กว้าง ๑๐ เมตร ชื่อ พระพุทธหัตถมงคลซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนิยมไปนมัสการ

น้ำตกโตนงาช้าง อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในภาคใต้ อยู่ห่างจากอำเภอหาดใหญ่ประมาณ ๒๘ กิโลเมตร ไปตามเส้นทางหาดใหญ่-รัตภูมิ ถึงหลักกิโลเมตรที่ ๑๓ เลี้ยวซ้ายที่บ้านหูแร่ ๑๓ กิโลเมตร น้ำตกโตนงาช้างมี ๗ ชั้น ชั้นที่สวยงามและเป็นชื่อของน้ำตกคือ ชั้นที่ ๓ สายน้ำตกไหลแยกกันมาในลักษณะคล้ายงาช้างแยกเป็น ๒ ทาง การจะเดินเที่ยวน้ำตกทั้ง ๗ ชั้น ต้องใช้เวลาเกือบ ๓ ชั่วโมง เพราะทางขึ้นน้ำตกค่อนข้างชัน

การเดินทาง จากหาดใหญ่สามารถโดยสารรถสองแถวจากตลาดสดเทศบาลหาดใหญ่ หรือเช่ารถตุ๊กตุ๊ก ราคา ๓๐๐-๔๐๐ บาท

อำเภอรัตภูมิ

วนอุทยานน้ำตกบริพัตร ห่างจากอำเภอเมือง ๕๒ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๔๐๖ ระหว่างกิโลเมตรที่ ๓๕-๓๖ แยกจากปากทาง ๘๐๐ เมตร เป็นน้ำตกเล็ก ๆ มีน้ำตลอดปี อยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี เหมาะกับการเล่นน้ำ สามารถเดินขึ้นไปตามบันไดหินเลียบเขา ชั้นบนมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ อีก ๑ แห่ง

อำเภอสะเดา

อำเภอสะเดา อยู่ห่างจากอำเภอหาดใหญ่ ๖๐ กิโลเมตร เป็นอำเภอชายแดนติดกับรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย นักท่องเที่ยวสามารถข้ามไปเที่ยวประเทศมาเลเซียได้โดยใช้หนังสือเดินทาง (passport) และบัตร

ประชาชนมาแสดง ด่านจะเปิดเวลา ๐๕.๐๐๒๓.๐๐ น. หากนำรถมาคิดคันละ ๒๕ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. ๐ ๗๔๓๐ ๑๑๐๗, ๐ ๗๔๓๐ ๑๔๐๑, ๐ ๗๔๓๐ ๑๔๐๔

วัดถ้ำเขารูปช้าง ตั้งอยู่ตำบลปาดังเบซาร์ ห่างจากตลาดปาดังเบซาร์ประมาณ ๑๓ กิโลเมตร เป็นวัดที่ใช้ถ้ำเป็นศาสนสถาน ภายในถ้ำแบ่งเป็นห้อง ๆ ประดิษฐานพระพุทธรูป พระนอน เจ้าแม่กวนอิม บางห้องมีหินงอกหินย้อย บริเวณวัดมีบรรยากาศสงบร่มรื่น

อำเภอจะนะ

วัดขวด หรือ สถานปฎิบัติธรรมโคกสัก ตั้งอยู่หมู่ ๕ บ้านคลองหาน ตำบลบ้านแค ห่างจากอำเภอหาดใหญ่ ๕๐ กิโลเมตร วัดนี้สร้างเมื่อปี ๒๕๓๖ โดยการนำขวดเก่าหลากสีหลายรูปแบบที่ชาวบ้านบริจาค นำมา

สร้างอุโบสถ โรงธรรม กุฏิ เจดีย์ ฝาผนัง กลายเป็นสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นสวยงาม ทำให้มีผู้มาชมเป็นจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๘ (จะนะ-นาทวี) บริเวณกิโลเมตรที่ ๔๓ หน้าโรงเรียนบ้านแค จะมีถนนเข้าไปถึงวัดขวด ประมาณ ๖ กิโลเมตร

อำเภอนาทวี

อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง ครอบคลุมพื้นที่อำเภอนาทวี และ อำเภอสะเดา เขาน้ำค้างเป็นเขตหวงห้ามกว่า ๔๐ ปี ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๒ โดยอยู่ในความยึดครองของผู้ก่อการร้ายโจรจีนคอมมิวนิสต์ (จคม.) เป็นบริเวณที่มีพื้นที่ภูมิประเทศเป็นถิ่นทุรกันดาร เทือกเขาสลับซับซ้อน ทำให้เป็นฐานปฎิบัติการใหญ่ที่สุดของโจรจีนคอมมิวนิสต์ ต่อมากรมป่าไม้มีการสำรวจพื้นที่เขาน้ำค้างและได้ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง เมื่อปี พ..๒๕๐๔ อุทยานฯ มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์มาก พื้นที่ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบ มีไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ไม้หลุมพอ ตะเคียน กฤษณา มังคะ สยาแดง เสือดำ เป็นต้น สัตว์ป่า เช่น สมเสร็จ กระจง อีเห็น นกเงือก นกหว้า เป็นต้น และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติศึกษาระบบนิเวศน์ บ้านพักและสถานที่กางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา

สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ ได้แก่

น้ำตกวังหลวงพรหม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๔๕๐ เมตร เป็นน้ำตกเล็ก ๆ มีแอ่งน้ำลึกสามารถเล่นน้ำได้

น้ำตกโตนลาด อยู่ด้านหลังจากที่ทำการอุทยานฯ ๕๐๐ เมตร เป็นน้ำตกสูง มีความลาดชันเล็กน้อย ลานเหนือน้ำตกเป็นลานหินกว้าง สามารถเล่นน้ำได้

น้ำตกโตนดาดฟ้า อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๒ กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีหน้าผาใหญ่ สูง ๒ ชั้น เมื่อแหงนหน้าขึ้นดูน้ำตกเหมือนมองดูดาดฟ้า

อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง หรือ หมู่บ้านปิยมิตร อยู่บริเวณเขาน้ำค้าง หมู่ ๑ ต.คลองกวาง ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ ๔ กิโลเมตร ถนนเป็นทางลาดยางเดินทางสะดวก สองข้างทางเป็นป่าที่ยังสมบูรณ์ ด้านหน้าก่อนเดินเข้าไปชมภายในอุโมงค์จะมีนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมา ข้อมูลและภาพถ่ายให้ได้ชมกัน บริเวณอุโมงค์ในอดีตเป็นหมู่บ้านคอมมิวนิสต์ หลังจากการสู้รบกับฝ่ายรัฐบาลเกือบ ๔๐ ปี พรรคคอมมิวนิสต์ได้ประกาศยุติการสู้ เข้าร่วมเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อปี พ.. ๒๕๓๐ อุโมงค์นี้ เป็นอุโมงค์ดินเหนียวมีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย ขุดด้วยกำลังคน ใช้เวลาประมาณ ๒ ปี ภายในแบ่งเป็น ๓ ช่องทาง ลึก ๓ ชั้น มีช่องทางเข้า-ออก ๑๖ ช่อง มีบันไดเชื่อมระหว่างชั้น ความยาวคดเคี้ยวขึ้นลงภายในอุโมงค์ยาว ๑ กิโลเมตร ภายในอุโมงค์แบ่งเป็นห้องๆ เช่น ห้องประชุม ห้องพยาบาล ห้องวิทยุ ห้องครัว สนามซ้อมยิงปืน เป็นต้น และยังมียาสมุนไพรจำหน่าย เสียค่าเข้าชมคนละ ๒๐ บาท

การเดินทาง สามารถเดินทางได้ ๒ เส้นทาง คือ จากอำเภอนาทวี ผ่านบ้านสะท้อน บ้านนาปรังถึงอุทยานฯ ทางลาดยางตลอดเส้นทาง ระยะทาง ๒๗ กิโลเมตร หรือจากอำเภอสะเดา ผ่านบ้านม่วง ตำบลสำนักแต้ว-บ้านเกาะหมี ถึงอุทยานฯ ทางลาดยาง ระยะทาง ๒๗ กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดได้ที่ ที่ว่าการอำเภอนาทวี โทร ๐ ๗๔๓๗ ๑๐๑๐

อำเภอเทพา

หาดสะกอม ห่างจากตัวเมืองสงขลา ประมาณ ๕๓ กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสงขลา-จะนะ-เทพา หาดทรายขาวสะอาดสวยงามมาก นับเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน ตั้งแค้มป์ สามารถเช่าเรือประมงไปเที่ยวเกาะขาม ที่มีปลาชุกชุมเหมาะแก่ผู้ชื่นชอบกีฬาตกปลา อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ ๒ กิโลเมตร บริเวณหาดแห่งนี้มีร้านอาหารและที่พักบริการ

อำเภอสิงหนคร

เจดีย์พี่น้องยอดเขาแดง ประกอบด้วย

เจดีย์องค์ดำ ตั้งอยู่บนยอดเขาแดง ตำบลเขาแดง เจ้าเมืองพระคลัง (ดิศ บุนนาค) สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ หรือ สมเด็จพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ สร้างไว้เป็นที่ระลึกเมื่อครั้งปราบกบฏเมืองไทรบุรี เมื่อปี พ.. ๒๓๗๓

เจดีย์องค์ขาว พระยาศรีพิพัฒน์ (ทัด บุนนาค) สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย หรือสมเด็จพระยามหาพิชัยญาติ สร้างไว้เป็นที่ระลึก เมื่อครั้งปราบกบฎเมืองไทรบุรี ปัตตานี ปีนัง และมลายู เมื่อปราบกบฏได้แล้ว พระยาศรีพิพัฒน์รับราชการเมืองสงขลาอยู่ ๒ ปี จึงได้สร้างเจดีย์ไว้บนยอดเขากลางเมืองสงขลาอีกองค์หนึ่งคู่กัน แล้วจึงยกทัพกลับกรุงเทพฯ

อำเภอสทิงพระ

อุทยานนกน้ำคูขุด (เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา) ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๔ ตำบลคูขุด ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองสงขลา ๕๕ กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๓ มีถนนแยกจากทางหลวงเข้าไปอีก ๓ กิโลเมตร ได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา เมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๑๙ มีพื้นที่ ๒๒๗,๙๑๖ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสงขลา และพัทลุง อุทยานนกน้ำเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบสงขลา จากการสำรวจของกรมป่าไม้พบว่ามีนก ๔๔ วงศ์ ๑๓๗ สกุล ๒๑๙ ชนิด บริเวณที่จะชมนก คือเกาะโคบ และท่าหิน ซึ่งนั่งเรือไปประมาณ ๑ ชั่วโมง ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับดูนก คือเดือนธันวาคม-มีนาคม ของทุกปี บริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีเรือบริการนำชมนก ค่าบริการชั่วโมงละ ๒๐๐ บาท เรือนั่งได้ ๖-๗ คน อุทยานฯ มีบ้านพักบริการ จำนวน ๑ หลัง ๔ ห้อง ๆ ละ ๒๐๐ บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา โทร. ๐ ๗๔๓๙ ๗๐๔๒

การเดินทาง สามารถนั่งรถโดยสารสายนครศรีธรรมราช-หาดใหญ่ หรือ อำเภอระโนด-หาดใหญ่ แล้วลงรถที่หน้าอำเภอสทิงพระ และต่อรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปยังอุทยานฯ

วัดจะทิ้งพระ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ ตำบลจะทิ้งพระ ห่างจากที่ว่าการอำเภอสทิงพระประมาณ ๒๐๐ เมตร เดิมเรียกว่า วัดสทิงพระสร้างขึ้นเมื่อ พ.. ๑๕๔๒ ภายในวัดมีโบราณสถานซึ่งเป็นศิลปะสมัยศรีวิชัยที่น่าสนใจ เช่น เจดีย์พระมหาธาตุ วิหารพระพุทธไสยาสน์ ที่ภายในวิหารมีภาพวาดฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก หอระฆังโบราณ วัดจะทิ้งพระ จะมีงานสมโภชน์พระพุทธไสยาสน์และพระเจดีย์ เป็นประจำปีทุกปี ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖

วัดพะโคะ หรือ วัดพระราชประดิษฐาน ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลชุมพร บริเวณเขาพัทธสิงค์ อยู่ห่างจากสงขลา ๔๘ กิโลเมตร เป็นวัดจำพรรษาของ สมเด็จพะโคะหรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งประชาชนให้ความนับถือเป็นอันมาก สร้างประมาณ พ..๕๐๐ เล่ากันว่า วันหนึ่งมีโจรสลัดแล่นเรือเลียบมาตามฝั่ง เห็นสมเด็จพะโคะเดินอยู่มีลักษณะแปลกกว่าคนทั้งหลายจึงใคร่จะลองดี โจรสลัดจอดเรือและจับสมเด็จพะโคะไป เมื่อเรือแล่นมาได้สักครู่เกิดเหตุเรือแล่นต่อไปไม่ได้ ต้องจอดอยู่หลายวัน จนในที่สุดน้ำจืดหมดลงโจรสลัดเดือดร้อน สมเด็จพะโคะสงสาร จึงเอาเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเลเกิดเป็นประกายโชติช่วง น้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืด โจรสลัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธากราบไหว้ขอขมา และนำสมเด็จพะโคะขึ้นฝั่ง ตั้งแต่นั้นมาประชาชนจึงพากันไปกราบไหว้บูชากันเป็นจำนวนมาก การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๗ ทางสะพานติณสูลานนท์ผ่านเกาะยอ แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๓ (สงขลา-ระโนด) หลักกิโลเมตรที่ ๑๑๐ ทางซ้ายมือ จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดพะโคะ

อำเภอกระแสสินธุ์

วัดเอกเชิงแส อยู่ที่ตำบลเชิงแส ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๘ เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง ๔๑๙๖ เข้าอำเภอกระแสสินธุ์ เดิมชื่อวัดเอก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทำด้วยหินปะการัง แต่ได้หล่อปูนครอบพระพุทธรูปองค์เดิมไว้ นับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดหน้าตักกว้าง ๗๐ เซนติเมตร สูง ๑๒๐ เซนติเมตร รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่โทร. ๐ ๗๔๓๙ ๙๐๗๕

เทศกาลงานประเพณี

งานประเพณีสงกรานต์ จัดขึ้นในวันที่ ๑๓ เมษายน ของทุกปี ทางอำเภอหาดใหญ่มีการจัดงานขึ้นที่บริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ ๑, , ๓ ตั้งแต่เช้าถึงเย็น ชาวมาเลเซียและสิงคโปร์นิยมเดินทางมาร่วมสนุกกับชาวไทยในเทศกาลนี้เป็นที่สนุกสนาน

งานเกษตรภาคใต้ จัดเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมเป็นประจำทุกปี โดยคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นงานที่มีขึ้นเพื่อส่งเสริมการเกษตร ในงานมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เช่น การจำหน่ายผลิตผลผลิตภัณฑ์การเกษตรจากจังหวัดภาคใต้ การประกวดผลิตผล การสาธิตต่าง ๆ

งานวัฒนธรรมสัมพันธ์ จัดโดยสถาบันราชภัฏสงขลา ประมาณเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ในงานมีการแสดงนาฏศิลป์ ศิลปวัฒนธรรมทั้งจากภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน และยังมีการออกร้านจำหน่ายสินค้าอีกด้วย

งานเทศกาลทำบุญเดือนสิบ เป็นงานประเพณีของชาวไทยภาคใต้ เกิดจากความเชื่อที่ว่าช่วงแรม ๑-๑๕ ค่ำเดือนสิบ วิญญาณของญาติพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้วโดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ไปเกิด จะได้รับการปลดปล่อยให้มาพบญาติพี่น้องในเมืองมนุษย์ ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะจัดหาอาหารต่างๆไปทำบุญตามวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ที่อำเภอสทิงพระจะจัดงานเทศกาลนี้แปลกไปจากที่อื่น คือมีการแห่หุ่นทองสูงเพื่อใช้แทนญาติหรือผู้อาวุโสที่เป็นที่นับถือของชาวบ้าน

งานประเพณีลากพระและตักบาตรเทโว จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ประมาณเดือนตุลาคม ณ อำเภอเมือง พิธีจะเริ่มก่อนวันงานด้วยการห่มผ้าพระเจดีย์บนยอดเขาตังกวน ในวันงานเวลาเช้าจะเป็นพิธีตักบาตรเทโวบริเวณเชิงเขาตังกวน พระสงฆ์หลายร้อยรูปจะเดินลงมาจากเขาตังกวนเพื่อรับบิณฑบาตรจากพุทธศาสนิกชน ตอนสายจะมีเรือพระจากวัดต่างๆในเขตจังหวัดสงขลาเคลื่อนผ่านให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำบุญและลากพระ ตามความเชื่อที่ว่าจะได้บุญกุศลสูง เรือพระจะมารวมกันที่บริเวณสระบัวเพื่อร่วมประกวดการตกแต่งเรือพระ นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมอีกด้วย

สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก

ข้าวเกรียบกุ้ง-ปลา เป็นผลิตภัณฑ์พื้นเมืองของสงขลา มีรสชาติอร่อย ราคาไม่แพง นอกจากนี้ยังมีน้ำบูดู เม็ดมะม่วงหิมพานต์ กุ้งแก้ว จะหาซื้อได้จากร้านค้าบริเวณถนนนครใน อำเภอเมือง

รูปหนังตะลุง หนังตะลุงเป็นศิลปะพื้นบ้านของชาวภาคใต้ มีการแสดงในจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สงขลา การแสดงจะปลูกโรงและใช้ตัวหนังตะลุงที่แกะจากหนังสัตว์ เวลาเชิดหนังจะอาศัยแสงจากหลอดไฟฟ้าเพื่อสะท้อนให้เห็นเงาหนัง และใช้คนพากย์เป็นเรื่องราวต่างๆ รูปหนังตะลุงสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของที่ระลึกทั่วไป

ผ้าทอเกาะยอ เป็นผ้าทอพื้นเมืองของจังหวัดสงขลา แหล่งทอผ้าชนิดนี้อยู่ที่เกาะยอ อำเภอเมือง

ผ้าทอเกาะยอมีลวดลายสวยงามหลากหลาย เช่น ลายราชวัติ ลายลูกแก้ว ลายเส้นละเอียดและมีความทนทาน มีจำหน่ายตามร้านค้าบริเวณถนนนครใน และถนนนางงาม และหากต้องการชมการทอผ้าพร้อมทั้งซื้อผ้าเกาะยอสามารถชมได้จากกลุ่มทอผ้าดอกพิกุล โทร. ๐ ๗๔๔๕ ๐๐๙๖, ๐ ๗๔๔๕ ๐๐๙๐

อาหารแนะนำ

บะกุดเต๋ คือกระดูกหมูต้มเครื่องยาจีน เป็นอาหารพื้นเมืองที่คนนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า พร้อมกับของนึ่ง เช่น ซาลาเปา ขนมจีบ สามารถหารับประทานได้ทั่วไป

ก๋วยจั๊บ ข้างโรงแรมลิโด ถนนเสน่หานุสรณ์ เป็นก๋วยจั๊บน้ำข้นรสชาติกลมกล่อม

ขนมสำปันนี ขนมทองม้วน ขนมทองพลับ และขนมไทย ๆ อีกหลายชนิดมีให้เลือกที่ร้านขนมไทยสองแสน ถนนนางงาม ขนมจะใหม่สด รสชาติอร่อย ยิ่งถ้าหาซื้อเป็นของฝากจะถูกใจผู้รับเป็นยิ่งนัก

กิจกรรมที่น่าสนใจ

ชนโค (วัวชน) เป็นกีฬาพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมมานาน หลังการเก็บเกี่ยวแต่ละหมู่บ้านจะนำโคมาชนกันเพื่อสมานสามัคคีและเป็นงานรื่นเริง โดยการนำวัวตัวผู้ ๒ ตัวมาชนกันในแต่ละรอบใช้เวลาประมาณ ๑๕-๓๐ นาทีขึ้นอยู่กับความทรหดอดทนของวัวที่ฝึกฝนมา การชนโคจัดให้มีขึ้นเดือนละครั้งแต่ละสนามสลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป (หากตรงกับวันพระการชนโคจะเลื่อนไป)

กีฬายิงปืน ในจังหวัดสงขลามีสนามยิงปืน ๒ สนาม เปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป

- สนามยิงปืนรุจิรวงศ์ ตั้งอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ตรงข้ามกับสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เปิดให้บริการทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๐ ๗๔๒๔ ๓๓๑๑

- สนามยิงปืนราชนาวีสงขลา ตั้งอยู่ในบริเวณฐานทัพเรือสงขลา ถนนชลาทัศน์ (ริมทะเล) สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๐ ๗๔๓๒ ๑๒๕๑

กอล์ฟ มีสนามกอล์ฟหลายแห่งที่เป็นที่นิยมของนักกอล์ฟท้องถิ่นและจากประเทศเพื่อนบ้าน คือ

- หาดใหญ่รีสอร์ทแอนด์กอล์ฟคลับ (๑๘ หลุม) ๙๔ หมู่ ๔ ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ โทร. ๐ ๗๔๔๓ ๔๗๗๑-

- หาดใหญ่ คันทรี คลับ (๙ หลุม) ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ โทร. ๐ ๗๔๒๓ ๒๕๘๒, ๐ ๗๔๓๔ ๓๑๒๑

- สนามกอล์ฟคอหงส์ ( ๙ หลุม) มณฑลทหารบกที่ ๔๒ ค่ายเสนาณรงค์ โทร. ๐ ๗๔๒๑ ๙๐๕๐ ต่อ ๔๔๓๔๕

- สนามกอล์ฟทองใหญ่ (๙ หลุม) หาดสมิหลา อำเภอเมือง (ใกล้โรงแรมบีพี สมิหลา) โทร. ๐ ๗๔๓๒ ๓๗๖๑

- เซาท์เทิร์น ฮิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ (๑๘ หลุม) ๑๒๘ หมู่ ๘ ถ.กาญจนวนิช ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ โทร. ๐ ๗๔ ๓๔ ๓๕๖๐-, ๐ ๗๔๓๗ ๐๑๑๓

นกเขาชวา (นกเขาเล็ก) เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากทางภาคใต้ นกเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเพาะพันธุ์ได้จากฟาร์มนกเขาที่อำเภอจะนะ การแข่งขันนกเขานิยมจัดเป็นประจำทุกปีระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม การตัดสินกรรมการจะวัดจากเสียงของนกโดยดูจากโทนเสียง น้ำเสียง จังหวะการขัน ความดัง และความต่อเนื่องในการขัน นกที่ชนะการประกวดจะมีราคาสูงมาก ในอำเภอจะนะมีฟาร์มนกเขาให้นักท่องเที่ยวชมและหาซื้อไปเลี้ยงทั้งเพื่อแข่งขันหรือเลี้ยงดูเพื่อความสวยงามได้จากฟาร์มต่าง ๆ เช่น โอ.เอส.เอ็ม ฟาร์ม โทร. ๐ ๗๔๔๓ ๑๒๔๙ และมณีฟาร์ม โทร. ๐๘ ๑๒๗๗ ๗๐๕๔

การเดินทาง อำเภอจะนะอยู่ห่างจากอำเภอเมือง ๔๐ กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง ๔๓ ไปอำเภอจะนะ จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายที่ซอยสุเหร่า ก่อนถึงสี่แยกที่จะเลี้ยวไปอำเภอจะนะประมาณ ๑๐๐ เมตร

ขอขอบคุณข้อมูล และรายละเอียดจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

Comments are closed.