เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ ชักพระประเพณี

สุราษฎร์ธานี เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ชนพื้นเมือง ได้แก่ พวกเซมัง และมลายูดั้งเดิมชึ่งอาศัยอยู่ในเขตลุ่มน้ำหลวง (แม่น้ำตาปี) และบริเวณอ่าวบ้านดอนก่อนที่ชาวอินเดียจะอพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งและเผยแพร่วัฒนธรรม ดังปรากฏหลักฐานในชุมชนโบราณที่ อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา เป็นต้น
ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ ๑๓ มีหลักฐานปรากฏว่าเมืองนี้ได้รวมกับอาณาจักรศรีวิชัย เมื่ออาณาจักรนี้เสื่อมลง จึงแยกออกเป็น ๓ เมือง คือ เมืองไชยา เมืองท่าทอง และเมืองคีรีรัฐ ขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้ย้ายเมืองท่าทองมาตั้งที่บ้านดอน และยกฐานะเป็นเมืองจัตวาขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ พระราชทานนามว่าเมือง “กาญจนดิษฐ์” ครั้นเมื่อมีการปกครองแบบมณฑล ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รวมเมืองทั้งสามเป็นเมืองเดียวกันเรียกว่า เมืองไชยา ต่อมา พ.ศ. ๒๔๕๘ รัชกาลที่ ๖ โปรดฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองไชยา มาเป็นเมืองสุราษฎร์ธานี แปลว่า เมืองแห่งคนดี
สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดของภาคใต้ ห่างจากกรุงเทพฯ ๖๘๕ กิโลเมตร มีพื้นที่ ๑๒,๘๙๑ ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ป่าดิบชื้นที่อุดมด้วยความหลากหลายของพืชพรรณและสัตว์ป่า และยังมีหมู่เกาะที่มีชื่อเสียง น้ำทะเลใส หาดทรายขาว อาทิ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะนางยวน ซึ่งแต่ละเกาะมีความหลากหลายของธรรมชาติแตกต่างกันไป
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดชุมพร และจังหวัดระนอง
ทิศใต้ ติดกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดกระบี่
ทิศตะวันออก ติดกับอ่าวไทย และจังหวัดนครศรีธรรมราช
ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดพังงา และจังหวัดระนอง
การเดินทาง
รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข ๓๕) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข ๔ โดยผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข ๔๑ จนถึงสุราษฎร์ธานี รวมระยะทาง ๖๘๕ กิโลเมตร
รถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีบริการเดินรถทุกวัน ระยะทาง ๖๕๐ กิโลเมตร ผู้โดยสารต้องไปลงที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน แล้วต่อรถประจำทางหรือแท็กซี่เข้าตัวจังหวัด ระยะทาง ๑๓ กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. ๑๖๙๐, ๐ ๒๒๒๐ ๔๓๓๔ สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน โทร. ๐ ๗๗๓๑ ๑๒๑๓, ๐ ๗๗๓๑ ๑๙๖๓
รถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถระหว่าง กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง ๑๑ ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีบริการรถโดยสารปรับอากาศ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย อีกด้วย รถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี รายละเอียดติดต่อ โทร. ๐ ๒๔๓๕ ๑๑๙๙ หรือบริษัทเอกชน โสภณทัวร์ โทร. ๐ ๒๔๓๕ ๕๐๒๓, ๐ ๒๔๓๕ ๗๔๗๗ กรุงสยาม โทร. ๐ ๒๔๓๕ ๕๐๒๔, ๐ ๒๒๘๒ ๒๑๑๘, ๐ ๒๘๘๔ ๙๓๘๓ ศรีสุเทพ โทร. ๐ ๒๘๘๔ ๕๕๗๗, ๐ ๒๘๘๔ ๕๕๙๙ (รถออกวันเว้นวัน)
เครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) มีบริการเที่ยวบินกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานีทุกวัน ใช้เวลาในการเดินทาง ๑ ชั่วโมง สอบถามรายละเอียด โทร. ๑๕๖๖, ๐ ๒๒๘๐ ๐๐๖๐, ๐ ๒๖๒๘ ๒๐๐๐ สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. ๐ ๗๗๒๗ ๒๖๑๐, ๐ ๗๗๒๗ ๓๗๑๐, ๐ ๗๗๒๗ ๓๓๕๕ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี โทร. ๐ ๗๗๔๔ ๑๒๓๐ หรือ www.thaiairways.com สายการบิน ไทยแอร์เอเซีย โทร. ๐ ๒๕๑๕ ๙๙๙๙ และสายการบินไทย วันทูโก โอเรียนท์ ไทย โทร. ๑๑๒๖, ๐ ๗๗๔๔ ๑๒๗๐-๔ .ให้บริการวันละ ๑ เที่ยวบินทุกวัน นอกจากนี้ บริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ทุกวัน ใช้เวลาเดินทาง ๑ ชั่วโมง ๑๐ นาที สอบถามรายละเอียด โทร. ๐ ๒๒๖๕ ๕๕๕๕ หรือ เกาะสมุย โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๒๕๑๒-๙
การเดินทางจากสุราษฎร์ธานีไปจังหวัดใกล้เคียง
รถโดยสารประจำทาง จากสุราษฎร์ธานีมีรถโดยสารปรับอากาศไปจังหวัดระนอง ชุมพร นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ กระบี่ ภูเก็ต และรถโดยสารธรรมดาไปจังหวัดต่างๆ ทุกจังหวัดทางภาคใต้ รายละเอียดติดต่อที่สถานีขนส่ง ถนนสุราษฎร์ธานี-พุนพิน โทร. ๐ ๗๗๒๐ ๐๐๓๒ โทรสาร ๐ ๗๗๒๐ ๐๐๓๓
รถไฟ จากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี อำเภอพุนพิน มีรถไฟไปจังหวัดนราธิวาส ยะลา ตรัง นครศรีธรรมราช ไชยา ชุมพร หัวหิน รายละเอียดติดต่อ โทร. ๐ ๗๗๓๑ ๑๒๑๓
ระยะทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีไปยังอำเภอต่าง ๆ
อำเภอพุนพิน ๑๔ กิโลเมตร
อำเภอกาญจนดิษฐ์ ๑๕ กิโลมเตร
อำเภอท่าฉาง ๓๗ กิโลเมตร
อำเภอบ้านนาสาร ๔๑ กิโลเมตร
อำเภอบ้านนาเดิม ๕๐ กิโลเมตร
อำเภอคีรีรัฐนิคม ๕๕ กิโลเมตร
อำเภอดอนสัก ๖๑ กิโลเมตร
อำเภอเคียนซา ๖๑ กิโลเมตร
อำเภอไชยา ๖๘ กิโลเมตร
อำเภอพระแสง ๖๘ กิโลเมตร
อำเภอเวียงสระ ๖๘ กิโลเมตร
อำเภอวิภาวดี ๗๐ กิโลเมตร
อำเภอบ้านตาขุน ๗๑ กิโลเมตร
อำเภอท่าชนะ ๗๘ กิโลเมตร
อำเภอพนม ๘๐ กิโลเมตร
อำเภอเกาะสมุย ๘๔ กิโลเมตร
อำเภอเกาะพะงัน ๑๐๐ กิโลเมตร
อำเภอชัยบุรี ๑๑๒ กิโลเมตร
ระยะทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปจังหวัดใกล้เคียง
ชุมพร ๑๑๗ กิโลเมตร
พังงา ๑๙๖ กิโลเมตร
ระนอง ๒๑๙ กิโลเมตร
นครศรีธรรมราช ๓๕๖ กิโลเมตร
สถานที่ที่น่าสนใจ
อำเภอเมือง
สถานีพัฒนาและส่งเสริมอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาท่าเพชร ห่างจากตัวเมือง ๖ กิโลเมตร ใช้เส้นทางสายสุราษฎร์ธานี-บ้านนาสาร จากถนนใหญ่มีทางแยกด้านซ้ายมือ สู่ที่ทำการอีก ๑.๕ กิโลเมตร สถานีพัฒนาฯ มีเนื้อที่ ๒,๙๐๖ ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเล ๒๑๐ เมตร ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๘ โดยใช้ชื่อวนอุทยานเขาท่าเพชร ต่อมากองอนุรักษ์สัตว์ป่าได้ประกาศจัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาท่าเพชร ภายในสถานีพัฒนาฯ เป็นป่าแบบป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ มีไม้ตะเคียนทราย ไม้คอแลน กระบก หวายแดง รอบบริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย และยังสามารถพบสัตว์ที่อาศัยอยู่ในสถานี อาทิ กระจง หมูป่า นกปรอด นกกระจิบกินปลี นกกระจิบเล็ก บนยอดเขาสามารถชมทิวทัศน์รอบตัวเมืองสุราษฎร์ได้โดยรอบ และเป็นที่ตั้งของ พระธาตุศรีสุราษฎร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ นับเป็นปูชนียสถานองค์แรกของชาวบ้านดอน ต่อมาพระธาตุชำรุดมีรอยร้าวที่ฐาน พระธาตุจึงถูกรื้อแล้วสร้างขึ้นใหม่เป็นทรงสูงเรียวลักษณะคล้ายลำเทียน นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ภายในสถานีพัฒนาฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ๘๐๐ เมตร มีป้ายสื่อความหมาย สามารถเดินศึกษาธรรมชาติด้วยตนเอง นอกจากนั้นยังมีที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว แต่ต้องนำเต็นท์มาเอง โดยทำหนังสือถึงหัวหน้าสถานีพัฒนาและส่งเสริมอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาท่าเพชร ตู้ ป.ณ. ๒๙ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๘๔๐๐๐
ปากน้ำตาปี ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓ ตำบลบางกุ้ง ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ ๗ กิโลเมตร ตามเส้นทาง
สุราษฎร์ธานี-ปากน้ำ การเดินทางจากตัวเมืองมีคิวรถตุ๊กตุ๊ก อยู่เยื้องกับห้างจุฬาสรรพสินค้า ถนนบ้านดอน ปากน้ำตาปีมีร้านจำหน่ายของทะเล ร้านอาหารทะเลอยู่หลายร้าน สามารถรับประทานพร้อมชมทิวทัศน์บรรยากาศธรรมชาติของทะเลอ่าวบ้านดอนได้ด้วย
คลองร้อยสาย ในบางแม่น้ำตาปี ในบางต่าง ๆ ของลำน้ำตาปี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติวิถีชีวิตและกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวบ้าน เช่น การทำสวนเกษตร การทำประมงพื้นบ้าน ล่องเรือ ชมหิ่งห้อย ชมป่าชายเลน ชมบ้านโบราณ ชมการสาธิตการทำหัตถกรรมกะลามะพร้าว ผักตบชวา เขียนผ้าบาติก นมัสการหลวงพ่อข้าวสุก ณ วัดบางใบไม้ นอกจากนี้ ยังมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ไว้บริการแก่นักท่องเที่ยว แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย ๒ วัน สำหรับการเดินทางล่องเรือชมคลองร้อยสาย สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวคลองร้อยสายแม่น้ำตาปี โทร. ๐๘ ๖๒๖๗ ๖๖๙๕ และ ๐ ๗๗๒๐ ๕๓๒๓
อำเภอไชยา
สวนโมกขพลาราม อยู่บริเวณเขาพุทธทอง ริมทางหลวงหมายเลข ๔๑ บริเวณกิโลเมตรที่ ๑๓๔ เดิมชื่อวัดธารน้ำไหล มีท่านพุทธทาสภิกขุเป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๕ เพื่อเป็นสถานที่แสวงหาความสงบและศึกษาธรรม มีโรงมหรสพทางวิญญาณ ซึ่งประกอบด้วยภาพศิลป์ บทกวี คติธรรมคำสอนในพุทธศาสนานิกายต่าง ๆ ภาพพุทธประวัติ ภาพจำลองจากภาพหินสลัก เรื่องพุทธประวัติในอินเดีย รอบบริเวณร่มรื่นเหมาะสำหรับเป็นที่ฝึกอบรมจิตใจและศึกษาพุทธศาสนา มีการสอนฝึกสมาธิแก่ชาวต่างประเทศ ทุกวันที่ ๑-๑๐ ของทุกเดือน และสำหรับคนไทย ทุกวันที่ ๑๙–๒๗ ของทุกเดือน ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐–๒๑.๐๐ น. ติดต่อรายละเอียดได้ที่ โทร. ๐ ๗๗๔๓ ๑๕๕๒, ๐ ๗๗๔๓ ๑๕๙๗, ๐ ๗๗๔๓๑๖๖๑-๒ หรือ www.suanmokkh.org และใกล้ ๆ กับสวนโมกขพลาราม มีสวนรุกขชาติเขาพุทธทอง เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่มีค่าไว้มาก
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อยู่ตำบลเวียง ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ ๕๔ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๔๑ และแยกเข้าทางหลวงหมายเลข ๔๐๑๑ เลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ ๑๓๗ องค์พระเจดีย์เป็นโบราณสถาน ที่สร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายาน ตั้งแต่ครั้งอาณาจักรศรีวิชัยรุ่งเรือง รอบองค์พระธาตุมีเจดีย์เล็กๆ ๔ ทิศ ล้อมรอบด้วยวิหารคด ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ขนาดต่างๆ โดยรอบทั้ง ๔ ด้าน พระธาตุไชยานับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร. ๐ ๗๗๔๓ ๑๐๙๐, ๐ ๗๗๔๓ ๑๔๐๒, ๐๘ ๖๕๙๑ ๐๙๗๙
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประเภทประวัติศาสตร์และโบราณคดี อาคารหลังแรกด้านหน้าจัดแสดงประติมากรรมศิลาและสำริดที่ค้นพบในเมืองไชยาเก่า ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ส่วนอาคารที่สอง เป็นที่จัดแสดงหลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยทวาราวดี ศรีวิชัย ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา นอกจากนี้ยังจัดแสดงงานประณีตศิลป์ต่าง ๆ อีกมากมาย เปิดให้เข้าชม เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. ปิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันนักขัตฤกษ์ ค่าเข้าชม ชาวไทย ๑๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๓๐ บาท รายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๗๔๓ ๑๐๖๖ โทรสาร ๐ ๗๗๔๓ ๑๐๖๖
วัดรัตนาราม หรือ วัดแก้ว ตั้งอยู่ที่บ้านวัดแก้ว ตำบลเลม็ด อยู่ห่างจากวัดพระบรมธาตุไชยาประมาณ ๑ กิโลเมตร วัดแก้วเป็นวัดเก่าแก่ ไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่าเจดีย์วัดแก้วสร้างสมัยเดียวกับเจดีย์วัดพระบรมธาตุไชยา คือระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๔-๑๕ มีโบราณสถานที่สำคัญเรียกว่า เจดีย์วัดแก้ว เป็นโบราณสถานสถาปัตยกรรมศรีวิชัย สร้างราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔-๑๕ ลักษณะของเจดีย์เป็นสถาปัตยกรรมแบบก่ออิฐไม่ถือปูน ฐานล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุข ๔ ด้าน ระหว่างมุขทำเป็นย่อมุมไม้สิบสอง ซุ้มด้านทิศตะวันออก มีทางเดินไปห้องกลางขององค์เจดีย์ ภายในซุ้มมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ทุกซุ้ม กองโบราณคดีกรมศิลปากรได้ขุดแต่งบูรณะในปี พ.ศ. ๒๕๑๙-๒๕๒๒
วัดหลง ตั้งอยู่ที่บ้านวัดหลง อยู่ติดกับวัดรัตนาราม เป็นวัดเก่าแก่ ไม่ทราบแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด สันนิษฐานว่าเจดีย์ของวัดนี้สร้างสมัยเดียวกับเจดีย์วัดพระบรมธาตุไชยา คือระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๔-๑๕ เป็นเจดีย์ที่ทิ้งร้างมานานจนชำรุดเหลือแต่ซากอิฐและฐานราก กองโบราณคดี กรมศิลปากรได้ขุดแต่งบูรณะปฏิสังขรณ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔-๒๕๒๗ ทำให้สภาพของรูปทรงเจดีย์ชัดเจนขึ้น
หมู่บ้านพุมเรียงและแหลมโพธิ์ อยู่ที่ตำบลพุมเรียง ห่างจากตัวอำเภอ ๗ กิโลเมตร เป็นชุมชนชาวมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ ที่มีอาชีพทอผ้าไหม ผ้าไหมพุมเรียงเป็นผ้าทอยกดิ้นเงิน หรือดิ้นทองสวยงาม คุณภาพดี มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวพุมเรียง ได้แก่ ลายราชวัตร ดอกโคม ลายดอกพิกุล ลายนพเก้า และลายยกเบ็ด เป็นสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลยจากหมู่บ้านไป ๒ กิโลเมตร ตามเส้นทางพุมเรียง-ชายทะเล จะถึงแหลมโพธิ์ ชายทะเลที่น่าเที่ยวแห่งหนึ่งของตำบลพุมเรียง มีอาหารทะเล โดยเฉพาะ “หอยขาว” ที่มีอยู่ที่แหลมโพธิ์เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีใช้บริการรถโดยสารสายสุราษฎร์ธานี-ระนอง หรือ สุราษฎร์ธานี-ชุมพร จากตัวเมืองไชยาใช้บริการรถโดยสารประจำทางสายไชยา-พุมเรียง
อำเภอกาญจนดิษฐ์
สถานที่ฝึกลิง ตั้งอยู่ที่ ๒๔ หมู่ ๔ ตำบลทุ่งกง ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช ทางหลวงหมายเลข ๔๐๑ ประมาณ ๗ กิโลเมตร และมีทางแยกด้านขวามือเป็นถนนลูกรังไปศูนย์ฝึกลิง อีก ๒ กิโลเมตร จะเห็นป้าย “วิทยาลัยฝึกลิงเพื่อการเกษตร” อยู่ด้านขวามือ มีการสาธิตและบรรยายหลักสูตรการฝึกลิงกัง จากเริ่มต้นจนสามารถทำงานได้จริง ผู้สนใจจะเข้าชมติดต่อล่วงหน้าที่คุณ
ศูนย์ฝึกลิงเพื่อการเกษตรกระแดะแจะ ชมการสาธิตและบรรยายหลักสูตรการฝึกลิงกัง ตั้งแต่เริ่มต้นจนสามารถทำงานกับมะพร้าวได้จริง และประทับใจกับความสามารถพิเศษของลิงกัง สำหรับผู้ประสงค์จะเข้าชม กรุณาติดต่อล่วงหน้าได้ที่ คุณ
ฟาร์มหอยนางรม อยู่ที่ปากคลองท่าทองและปากคลองกระแดะ เป็นสถานที่เพาะเลี้ยงหอยนางรมตามธรรมชาติ หอยนางรมที่ได้จากปากคลองนี้มีขนาดใหญ่กว่าแหล่งอื่น ผู้ประสงค์จะเดินทางสามารถติดต่อได้ที่ สินมานะฟาร์มสเตย์ โทร. ๐๘ ๑๕๙๗ ๗๕๗๕, ๐๘ ๑๙๗๐ ๘๕๔๔
สปา บ้านท่าช้าง เป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพจากพื้นฐานของชีวิตมนุษย์ ที่ว่า “มนุษย์เกิดมาย่อมหลากหลาย ทั้งจากองค์ประกอบของธาตุ ๔ (ธาตุเจ้าเรือน) ตำแหน่งที่เกิด (ภูมิประเทศที่เกิด) ฤดูกาลและเวลาที่เปลี่ยนไป” การดูแล รักษาสุขภาพตามหลักการดังกล่าวนั้น จึงควรเริ่มดูแลตั้งแต่เรื่องอาหาร การกิน ให้สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือน เป็นไปตามฤดูกาล ตามท้องถิ่นของแต่ละคน ซึ่งเป็นวิถีธรรมชาติ อันสืบทอดมาจากบรรพบุรุษที่สะสมภูมิปัญญาท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน มีบริการมีการนวดแผนไทย การอบสมุนไพรที่เรือนอบสมุนไพร การนวดน้ำมันที่เรือนนวดน้ำมัน และการตรวจรักษาจากแพทย์พื้นบ้านเฉพาะทาง และทั่วไปที่เรือนตรวจฎรักษา
จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๑ (สุราษฎร์-นครศรีฯ) ระยะทางรวมประมาณ ๑๒ กิโลเมตร สามารถนั่งรถโดยสารบ้านดอน-กาญจนดิษฐ์ บ้านดอนสายดอนสัก หรือรถโดยสารประจำทางสุราษฎร์-นครศรีฯ เมื่อผ่านสี่แยกดอนเด็จ ประมาณ ๒๐๐ เมตร สปาบ้านท่าช้าง ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ เปิดให้บริการทุกวันเว้นวันพฤหัสบดี เวลา ๑๐.๐๐-๒๐.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๗๒๘ ๐๔๗๙, ๐๘ ๙๙๘๑ ๙๐๙๓
อำเภอดอนสัก
น้ำตกวิภาวดี เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีประชาชนนิยมเดินทางมาพักผ่อนกันมากในวันหยุด บริเวณน้ำตกมีเรือพายให้เช่า ชั่วโมงละ ๔๐ บาท และมีร้านอาหารบริการ การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ๓๘ กิโลเมตร ริมทางหลวงหมายเลข ๔๐๑ บริเวณกิโลเมตรที่ ๖๐-๖๑ ก่อนถึงทางแยกเลี้ยวเข้าอำเภอดอนสัก มีรถโดยสารประจำทางผ่าน ๒ เส้นทาง คือ สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี-ดอนสัก
วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ อยู่ห่างจากชุมชนอำเภอดอนสัก ๑ กิโลเมตร ตามเส้นทางสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช (ทางหลวงหมายเลข ๔๐๑) พระครูสุวรรณประดิษฐ์การ หรือหลวงพ่อจ้อย เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคใต้เป็นผู้บุกเบิกสร้างขึ้น และมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ แต่ยังคงอยู่ในโลงแก้วภายในอุโบสถ บนยอดเขายังเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้มาจากวัดพระเกียรติ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ รถสามารถขึ้นถึงบนยอดเขาได้
ท่าเรือเฟอร์รี่ อยู่บริเวณแหลมกุลา หมู่ที่ ๑๐ ตำบลดอนสัก ห่างจากที่ว่าการอำเภอ ประมาณ ๗ กิโลเมตร เป็นท่าเรือข้ามฟากขนาดใหญ่ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปเกาะสมุย โดยนำรถยนต์ข้ามไป หรือนั่งโดยสารเพียงอย่างเดียวก็ได้ สอบถามข้อมูลได้ที่ ราชาเฟอร์รี่ โทร. ๐ ๗๗๔๗ ๑๑๕๑-๓ และบริษัท ซีทราน เฟอร์รี่ โทร. ๐ ๗๗๔๗ ๑๑๗๔, ๐ ๗๗๒๕ ๑๑๕๐-๒
พิพิธภัณฑ์ปลาหิน เกิดจากแรงบันดาลใจของนายกิตติ สินอุดม อดีตไต้ก๋งเรือ ที่นำก้อนหินมาแกะสลักเป็นปลาชนิดต่าง ๆ และจัดอย่างเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะของท้องทะเล ภายในพิพิธภัณฑ์ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางทะเลจากกลุ่มแม่บ้านบางน้ำจืด
การเดินทาง ใช้เส้นทางหมายเลข ๔๐๑ (สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช) ผ่านอำเภอกาญจดิษฐ์ ถึงสามแยกบ้านในให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางหมายเลข ๔๐๔๒ (บ้านใน-ท่าเรือเฟอร์รี่) ผ่านที่ทำการอำเภอดอนสัก ไปตามเส้นทางไปยังท่าเรือเฟอรร์รี่ พิพิธภัณฑ์ปลาหินตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๐๗.๐๐-๑๘.๐๐ น. ค่าเข้าชมคนละ ๒๐ บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. ๐ ๗๗๓๗ ๑๑๙๗
อำเภอพนม
อุทยานแห่งชาติเขาสก ครอบคลุมพื้นที่อำเภอบ้านตาขุน อำเภอพนม และอำเภอคีรีรัฐนิยม มีพื้นที่ ๔๖๑,๗๑๒ ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๓๗ สภาพโดยทั่วไปเป็นภูเขาดิน และภูเขาหินปูนสูงสลับซับซ้อน มีแนวหน้าผาสูงชัน ด้านทิศเหนือเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เกิดจากการก่อสร้างเขื่อนรัชชประภา มีป่าไม้และสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์ พันธุ์ไม้หายากที่พบในเขตอุทยานฯ ได้แก่ ปาล์มหลังขาว และ บัวผุด เป็นดอกไม้ขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางดอกประมาณ ๑๐-๒๕ นิ้ว ขึ้นอยู่บนพื้นดิน จะบานในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง มกราคม ส่วนสัตว์หายากที่น่าสนใจ ได้แก่ กบทูด และปลามังกร ช่วงเวลาที่เหมาะจะเดินทางมาท่องเที่ยวคือ เดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน นอกจากนั้นอุทยานฯ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การล่องแก่ง เดินป่า นั่งช้าง ดูนก และเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ
อุทยานฯ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่
วังยาว น้ำตกบางหัวแรด และน้ำตกวิ่งหิน น้ำตกบางหัวแรด เป็นน้ำตกสองชั้นที่สวยงามแต่ไม่สูงมาก ชั้นแรกไหลจากบางหัวแรดลงสู่คลองสก ชั้นที่สองอยู่ในคลองสก มีน้ำไหลตลอดปี ห่างลงมาประมาณ ๑๒๐ เมตร มีน้ำตกวิ่งหินไหลลงมาบรรจบเหนือขึ้นไป ๔๐ เมตร มีวังสำหรับเล่นน้ำ เรียกว่า “วังยาว” อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๓ กิโลเมตร
ตั้งน้ำ มีลักษณะเป็นภูเขาที่ถูกน้ำกัดเซาะจนขาดออกจากกัน ทำให้กลายเป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน มีลำคลองสกไหลลอดผ่านเบื้องล่าง อยู่ห่างจากที่ทำการฯ ประมาณ ๖ กิโลเมตร ห่างจากน้ำตกวิ่งหินประมาณ ๓.๒ กิโลเมตร ต้องเดินทางโดยทางเท้า
น้ำตกโตนกลอย เกิดจากคลองสก เป็นน้ำตกชั้นเดียว มีลานหินสำหรับพักผ่อนบนชั้นน้ำตก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ ๙ กิโลเมตร
น้ำตกโตนไทร เป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก อยู่ในลำคลองสก ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ ๑๑ กิโลเมตร ห่างจากน้ำตกโตนกลอย ประมาณ ๒ กิโลเมตร
น้ำตกธารสวรรค์ ไหลลงมาจากหน้าผาชัน พุ่งโค้งแบบรุ้งกินน้ำ ไหลลงสู่คลองสก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ ๙ กิโลเมตร ห่างจากตั้งน้ำประมาณ ๓ กิโลเมตร
น้ำตกสิบเอ็ดชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการฯ ๔ กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นชั้นๆ ลดหลั่นกันมาตามร่องหน้าผา
เป็นรูปขั้นบันได ๑๑ ขั้น ชั้นล่างสุดของน้ำตกจะมีแอ่งน้ำสำหรับลงเล่นน้ำได้ ต้องเดินทางโดยทางเท้า
น้ำตกแม่ยาย อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๔.๕ กิโลเมตร เป็นน้ำตกชั้นเดียวสูงประมาณ ๓๐ เมตร รถยนต์สามารถไปถึงได้ ตั้งอยู่ริมถนนสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า บริเวณกิโลเมตรที่ ๑๑๓
อุทยานฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ๓ เส้นทาง คือ
เส้นทางที่ ๑ น้ำตกบางหัวแรด-น้ำตกโตนกลอย เริ่มเดินจากที่ทำการอุทยานฯ ข้ามคลองบางเลน ไป น้ำตกบางหัวแรด ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๓ กิโลเมตร เป็นน้ำตก ๒ ชั้น ไม่สูงมากนัก เดินเลียบคลองสก ผ่าน น้ำตกวิ่งหิน อยู่ห่างไป ๑๒๐ เมตร มีความสูงประมาณ ๒๐ เมตร ไหลสู่คลองสก เดินทางต่อไปตามเส้นทางเดินเท้าเลียบคลองสกผ่าน วังยาว ห่างประมาณ ๔๐ เมตร เป็นวังน้ำลึก เดินเท้าขึ้นภูเขาเตี้ย ๆ ข้ามคลองสก มีทางแยกซ้ายเข้าไปประมาณ ๕ กิโลเมตร จะพบ น้ำตกธารสวรรค์ เป็นน้ำตกที่ไหลสู่คลองสก มีลักษณะเป็นแนวโค้งคล้ายแนวรุ้งกินน้ำ จากนั้นเดินเลียบคลองสกไปอีก ๒ กิโลเมตร จะถึง ตั้งน้ำ หรือต้นน้ำ เป็นภูเขาซึ่งถูกน้ำเซาะจนกลายเป็นหน้าผาหันหน้าเข้าหากัน มีลำคลองสกลอดผ่าน เบื้องล่างเป็นวังน้ำลึก ซึ่งเป็นสถานที่ลอยเถ้าอังคาร (เถ้ากระดูก) ของท่านพุทธทาส จากตั้งน้ำเดินเท้าปีนเขา ประมาณ ๓ กิโลเมตร ถึง น้ำตกโตนกลอย เป็นน้ำตกชั้นเดียว เกิดจากลำคลองสก มีน้ำไหลแรงตลอดปี ตลอดเส้นทางมีความยาว ๙ กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินได้เอง เส้นทางเดินไม่ลำบาก
เส้นทางที่ ๒ น้ำตกสิบเอ็ดชั้น เป็นเส้นทางที่ต้องปีนภูเขาสู่น้ำตกสิบเอ็ดชั้น ระยะทางเดิน ๔ กิโลเมตร เส้นทางเดินค่อนข้างชัน สามารถเดินเองได้ ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง น้ำตกสิบเอ็ดชั้น เกิดจากคลองบางเลน เป็นน้ำตกรูปขั้นบันได มี ๑๑ ชั้น
เส้นทางที่ ๓ เป็นเส้นทางเดินที่ใช้เส้นทางเดียวกับน้ำตกสิบเอ็ดชั้น แต่เป็นเส้นวงกลม มีทางเดินเป็นขั้นบันได ตามเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมาย สามารถเดินเองได้ ระยะทาง ๒ กิโลเมตร
ที่พัก อุทยานฯ มีบ้านพักบริการ ๒ หลัง ราคา ๘๐๐ บาท มีเต็นท์ให้เช่าราคาหลังละ ๑๕๐-๖๐๐ บาท/คืน
นักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์ไปเอง เสียค่าพื้นที่กางเต็นท์ คนละ ๓๐ บาท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาสก หมู่ที่ ๖ ตำบลคลองสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร. ๐ ๗๗๓๙ ๕๑๕๔-๕ และใกล้ที่ทำการอุทยานฯ มีที่พักของเอกชนบริการหลายแห่ง บางแห่งเป็นบ้านบนต้นไม้ ซึ่งเป็นอีกบรรยากาศของที่พักที่นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสได้
การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีใช้เส้นทางสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า (ทางหลวงหมายเลข ๔๐๑) ถึงกิโลเมตรที่ ๑๐๙ มีแยกขวาไปอีก ๑.๕ กิโลเมตร ถึงบริเวณที่ทำการอุทยานฯ หรือจากสถานีรถไฟ อำเภอพุนพิน สุราษฎร์ธานี มีรถประจำทางสายพุนพิน-ภูเก็ต ลงรถบริเวณกิโลเมตรที่ ๑๐๙ แล้วต่อรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้าสู่ที่ทำการอุทยานฯ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เตรียมอาหารหรือเสบียงในการพักค้างแรมที่อุทยานฯ สามารถจะหาซื้อของใช้ได้ที่บริเวณบ้านตาขุน ซึ่งเป็นชุมชนที่มีร้านค้าหลายแห่งก่อนเดินทางไปอุทยานฯได้
เขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) อยู่ในบริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ ๓ ตำบลเขาพัง ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ๙๐ กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ สูง ๙๕ เมตร ยาว ๗๐๐ เมตร บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ และสวนสวยงาม ภูเขาหินปูนที่อยู่ในเขื่อนมีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน ในบริเวณเขื่อนรัชชประภาจะมีที่พักของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสกไว้บริการนักท่องเที่ยว ได้แก่ หน่วยอุทยาน ขส.๒ มีบ้านพัก ๒ หลัง พักได้ ๓๐ คน แพพักที่หน่วยฯ นางไพร มี ๖ หลัง พักได้ ๕๐ คน แพพักที่หน่วยฯ โตนเตย มี ๗ หลัง พักได้ ๑๐-๑๘ คน แพพักที่หน่วยฯ ไกรสร มี ๑๐ หลัง ราคาที่พักรวมค่าอาหารคนละ ๕๐๐ บาท โดยขึ้นเรือที่ท่าริมแก่ง ค่าเช่าเรือหางยาวสำหรับเดินทางไปยังแพต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้ไกล แพนางไพร ราคา ๑,๒๐๐-๒,๐๐๐ บาท แพโตนเตยและแพไกรสรราคา ๑,๗๐๐ บาท ผู้ที่ประสงค์จะไปพักควรติดต่อที่พักล่วงหน้า โทร. ๐ ๗๗๒๙ ๙๓๑๘-๙
นอกจากนั้นแพต่าง ๆ ยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ที่หน่วยพิทักษ์นางไพร โตนเตย และไกรสร มีเรือแคนูให้เช่า ราคา ๒๐๐ บาท/วัน โดยเฉพาะที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส. ๔ (โตนเตย) จะมีถ้ำให้นักท่องเที่ยวได้ผจญภัยตื่นเต้น คือ ถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ๖ กิโลเมตร โดยทางเท้า เป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหล มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม การเดินเที่ยวถ้ำค่อนข้างลำบากจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง
สำหรับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ก็มีที่พักและกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจบริการนักท่องเที่ยว เช่น สนามกอล์ฟมาตรฐาน ๑๘ หลุม หรือจะนั่งเรือชมบรรยากาศของทะเลสาบเหนือเขื่อน สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๗๒๔ ๒๕๖๐ ต่อ ๒๕๑๒ สำหรับบ้านพักมีบริการนักท่องเที่ยว จำนวน ๒๐๐ ห้อง ราคา ๘๐๐–๔,๕๐๐ บาท/คืน สอบถามรายละเอียด โทร. ๐ ๗๗๒๔ ๒๕๖๐-๑ ในวันและเวลาราชการ
การเดินทาง จากอำเภอเมือง ไปตามทางหลวงหมายเลข ๔๐๑ แยกเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส.๒ (เชี่ยวหลาน) ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๖๐ ระยะทาง ๑๔ กิโลเมตร
อุทยานแห่งชาติคลองพนม ประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๓ อยู่ในเขตตำบลคลองสก ตำบลพนม ตำบลพลูเถื่อน อำเภอพนม มีเนื้อที่ ๒๕๖,๕๐๐ ไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินปูนเรียงรายสลับซับซ้อน และมีป่าไม้ที่สมบูรณ์อุดมด้วยไม้ใหญ่นานาพรรณ เป็นป่ารกครึ้มร่มรื่น มีลำธารใหญ่น้อยจำนวนมาก ซึ่งลำธารนี้ไหลรวมกับคลองสกและ
คลองสกไหลไปรวมกับคลองแสง เป็นต้นกำเนิดของคลองพุมดวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำตาปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๗๒๙ ๙๒๙๘
สถานที่น่าสนใจของอุทยานฯ ได้แก่
ค่ายเขาวงก์ ในอดีตเคยเป็นพื้นที่ของพรรคคอมมิวนิสต์ การเดินทางจะต้องผ่านลำธารน้ำตกเขาวงก์ซึ่งสูง ๘ ชั้น พื้นที่เกษตรกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีต จากนั้นจึงเดินเข้าถ้ำตามลำธารน้ำไหล ซึ่งเป็นถ้ำมืดสามารถเดินทะลุเขาอีกด้านหนึ่งได้ ใช้เวลา ๔๕ นาที ภายในถ้ำอดีตเคยเป็นที่ตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยมาก่อน
น้ำตกช่องยูง เป็นน้ำตกที่เป็นชั้นลดหลั่นกันลงมา แลดูสวยงาม มีสายน้ำที่เย็นฉ่ำ ท่ามกลางป่าไม้ร่มรื่นที่สมบูรณ์
ถ้ำนอน และถ้ำน่าน เป็นถ้ำที่เกิดจากภูเขาหินปูน ภายในมีหินงอกหินย้อยที่ดูเป็นประกายพราวด้วยแร่ไมกา
ถ้ำแก้ว อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๒ กิโลเมตร การจะไปถ้ำแก้วต้องเดินเท้าเลียบไปตามแนวเขาที่สูงชัน ระยะทาง ๙๑๙ เมตร โดยเริ่มจากวังมัจฉา (วัดถ้ำวราราม) บริเวณกิโลเมตรที่ ๙๒ ใช้เวลาเดิน ๓๐ นาที ภายในถ้ำจะมีห้องต่าง ๆ หลายห้องที่มีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ ตามชื่อห้องนั้น ๆ เช่น ถ้ำแก้ว ซึ่งที่มาของชื่อถ้ำนั้น เกิดจากผนังถ้ำจะมีหินที่มีลักษณะเหมือนกลีบผ้าม่าน และมีแสงระยิบระยับของเกล็ดหินมองแล้วเหมือนเกล็ดแก้ว เกล็ดแก้ว เป็นห้องที่มีแสงระยิบระยับของเกร็ดหินบริเวณหินงอกหินย้อย ห้องฤาษี มีหินลักษณะเหมือนพระฤาษี ห้องม้าน้ำ จะมีหินย้อยที่มีลักษณะเหมือนม้าน้ำจำนวนหลายร้อยตัวเรียงรายกันอยู่อย่างน่าอัศจรรย์ ห้องหม้อยา เป็นห้องที่มีหินงอกลักษณะคล้ายหม้อยา จนถึงกับมีชาวบ้านนำเอาเศษหินเศษดินในหม้อยานี้ไปใช้รักษาโรคก็มี
นอกจากนั้นอุทยานฯ ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ “วังมัจฉา-ถ้ำแก้ว” ระยะทาง ๑ กิโลเมตร ตลอดเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายบอกถึงความสัมพันธ์ของพืชและสัตว์ในป่าที่ต่างต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และตามเส้นทางเดินยังมีจุดชมวิวที่จะเห็นความสมบูรณ์ของป่าได้อีกด้วย
การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๑ เส้นทางเดียวกับทางไปอุทยานแห่งชาติเขาสก (สายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า) แยกซ้ายเข้าตรงกิโลเมตรที่ ๙๐ เข้าไป ๕๐ เมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ
บ้านถ้ำผึ้ง ตั้งอยู่ที่ กม.๖๓ หมู่ ๕ ตำบลต้นยวน เป็นชื่อหมู่บ้านซึ่งเป็นชื่อที่มาจากภูเขาลูกหนึ่ง ภายในหมู่บ้านมีถ้ำและผึ้งอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ภายในบริเวณบ้านถ้ำผึ้งมีสถานที่ท่องเที่ยวทางนิเวศน์ที่น่าสนใจได้แก่ บึงน้ำดันทรายดูด หรือน้ำพุเย็น ลักษณะเป็นบึงน้ำในลึกประมาณ ๔ เมตร ตรงก้นบึ้งมีลักษณะคล้ายแรงดัน ทำให้ทรายบริเวณดังกล่าวถูกดันขึ้นมาตลอด นอกจากนั้นยังมี น้ำตกธารบางคุยหรือธารพฤกษา ถ้ำน้ำลอด ถ้ำสมรภูมิ พรุน้ำร้อน น้ำตกหินลาด และน้ำผุด ที่บ้านถ้ำผึ้งมีบ้านพักโฮมสเตย์ไว้บริการนักท่องเที่ยว พร้อมสถานที่กางเต็นท์ซึ่งชุมชนจัดไว้ให้บริการเช่นกัน และสินค้าโอทอปที่ขึ้นชื่อได้แก่ น้ำผึ้ง ห่างจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ๘๕ กิโลเมตร เดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๑ แยกซ้ายตรงหลักกิโลเมตรที่ ๖๓ เป็นถนน รพช.๑๒ กม. (ลาดยาง ๑๐ กม.) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๙๒๙๐ ๙๔๒๐, ๐ ๗๒๗๐ ๐๑๓๖, ๐ ๑๐๘๖ ๗๔๖๕
แหล่งปลาวัดพนม บริเวณท่าน้ำของวัดพนมมีลำคลองศกไหลผ่านมาจากอุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นท่าน้ำที่สามารถลงเล่นน้ำได้ และจะมีแพไว้สำหรับนักท่องเที่ยวยืนชมฝูงปลา ซึ่งมีปลานับพันตัวที่มารวมตัวกันเองตามธรรมชาติ มีพันธุ์ปลาต่าง ๆ มากมาย เช่น ปลากด, ปลาแป้น, ปลาตะเพียนขาว, ปลาแครง ฯลฯ สำหรับช่วงเวลาการท่องเที่ยวจะเริ่มเดือนธันวาคม-เมษายน และช่วงน้ำหลากจะเริ่มในเดือน พฤษภาคม-พฤศจิกายน นอกจากนี้ยังมีจุดตั้งแคมป์ปากคลองพนม สำหรับนักท่องเที่ยวใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๐๑ (สุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า) ผ่านทางเข้าเขื่อนรัชชประภา (กม.๕๘) และผ่านปากทางเข้าแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ บ้านถ้ำผึ้ง กม.๖๓ จนถึง กม.๗๐ พบป้ายบอกทางเข้าไปยังวัดพนม แยกซ้ายใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๔๑๑๘ (อำเภอพนม-อำเภอทับปุด) ระยะทางประมาณ ๖ กม. สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. ๐๘ ๖๒๗๖ ๐๒๖๕
อำเภอคีรีรัฐนิคม
คลองน้ำใส ตั้งอยู่ที่หมู่ ๕ ตำบลถ้ำสิงขร เป็นลำคลองที่มีลักษณะคล้ายลำคลองน้ำจืดทั่วไป แต่ความพิเศษเป็นลำธารที่มีความใสของน้ำเป็นพิเศษสามารถมองเห็นก้นบึงของลำธารได้อย่างชัดเจน มีความยาวของลำธารประมาณ ๕ กิโลเมตร ลึกประมาณ ๑.๓๐ เมตร ต้นน้ำเกิดจากน้ำผุดที่ไหลออกมาจากรากต้นไทร ซึ่งอยู่ห่างจากจุดบริเวณจุดเล่นน้ำประมาณ ๑๐๐ เมตร จากจุดต้นน้ำเป็นลำธารที่เชื่อมต่อคลองน้ำข้นไหลมาบรรจบธารน้ำใส เป็นจุดตัดไม่ให้น้ำข้นไหลลงมา ซึ่งลำคลองน้ำใสไหลลงไปบรรจบที่คลองยันต์ วัดสถิตคีรีรมย์ (วัดเขา) แล้วไหลไปสู่คลองพุมดวง
การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางหมายเลข ๔๐๑ หรือเส้นทางหมายเลข ๔๑ (สุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า-ภูเก็ต) แยกขวาที่ปากทางเข้าวัดถ้ำสิงขร ที่ กม.๓๕ ถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายไปคลองน้ำใส เป็นเส้นทางผ่านบ่อน้ำร้อน ประมาณ ๕๐๐ เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไปคลองน้ำใส เป็นถนนลูกรัง ประมาณ ๑ กิโลเมตร ถึงสามแยกเข้าไปที่คลองน้ำใส ระยะทางประมาณ ๓๐๐ เมตร
บ่อน้ำร้อนถ้ำสิงขร ก่อนถึงวัดถ้ำสิงขร มีทางแยกซ้ายมือเป็นประมาณ ๑ กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของบ่อน้ำร้อนทั้งหมด ๘ บ่อ ซึ่งเป็นบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ บ่อที่ร้อนที่สุดมีอุณหภูมิประมาณ ๕๐ องศาเซลเซียส และบริเวณใกล้เคียงจัดเป็นสวนสาธารณะ สามารถเดินทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า ถึง กม.ที่ ๓๔ ทางขวามือมีป้ายชี้ทางไปวัดถ้ำสิงขร เป็นถนนลาดยางประมาณ ๓.๕ กิโลเมตร
วัดถ้ำสิงขร เป็นวัดที่ตั้งอยู่หมู่ที่ ๕ ตำบลถ้ำสิงขร เป็นวัดที่เก่าแก่ที่บอกถึงอดีตอันยาวนานของชุมชนที่มีมานับร้อย ๆ ปี ในลุ่มน้ำคลองยัน (คลองขยัน) และลำน้ำคีรีรัฐ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปูนปั้นมีแบบและขนาดต่าง ๆ จำนวนมากมายที่สำคัญคือ พระพุทธรูปนั่งห้อยพระบาทขนาดใหญ่ มีพื้นที่ชิดผนังถ้ำด้านซ้ายมือ มีช้างปูนปั้นยืนเรียงรายจำนวนไม่น้อยกว่า ๖ เชือก บนผนังถ้ำด้านขวามือและตรงหลืบหินห้อยกลางถ้ำมีภาพปูนปั้นเป็นรูปเทวดา ยักษ์มาร แม่พระธรณีล้อมรอบพระพุทธองค์ บนเพดานถ้ำเป็นลายปูนปั้น รูปลายก้านขด และติดกระเบื้องถ้วยชามประดับ วัดถ้ำสิงขรห่างจากตัวอำเภอประมาณ ๒๔ กิโลเมตร จึงทำให้การเดินทางไปยังวัดสามารถนั่งเรือจากตลาดท่าข้ามทวนน้ำขึ้นไปได้ และทางที่สะดวกมากคือทางรถยนต์ โดยถนนสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า ตัดผ่าใกล้วัดคือระหว่างกิโลเมตรที่ ๓๔-๓๕ จะมีทางแยกเข้าวัดระยะทางประมาณ ๒ กิโลเมตร
อำเภอพุนพิน
บ่อน้ำร้อนท่าสะท้อน (รัตนโกสัย) ตั้งอยู่ที่ บ้านบ่อกรัง ตำบลท่าสะท้อน ได้มีการพัฒนาปรับภูมิทัศน์โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งได้ดำเนินการเปิดให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป ในบางส่วน ได้แก่ บ่อแช่เท้า บ่อแช่ตัว น้ำแร่ร้อนมีอุณหภูมิประมาณ ๗๐ องศาเซลเซียส สวนสาธารณะและสนามเด็กเล่น นอกจากนี้มีบ้านพักเพื่อให้บริการแก่ผู้มารักษาด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ การเดินทางจากอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีใช้เส้นทางหมายเลข ๔๐๑ จนถึงสามแยก กม.๐ ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหมายเลข ๔๐๑ จนถึงทางแยกซ้ายมือเข้าสู่บ้านบ่อกรัง ผ่านถนนทางรถไฟและผ่านตัวตลาดตำบลบ่อกรังประมาณ ๔ กิโลเมตร พบทางแยกขวามือเข้าสู่บ้านห้วยลึก ซึ่งเป็นเส้นทางไปบ่อน้ำร้อนท่าสะท้อน ระยะทางประมาณ ๓ กิโลเมตร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร. ๐ ๗๗๒๒ ๒๒๐๒ และองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสะท้อน โทร. ๐ ๗๗๒๙ ๔๐๙๔
หมู่บ้านลีเล็ด ตำบลลีเล็ด มีพื้นที่ครอบคลุม ๖ ตำบล อาชีพของชาวบ้านโดยส่วนใหญ่ทำประมง ทำนากุ้ง และสวนมะพร้าว มีกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่หลากหลายได้แก่ ล่องเรือชมป่าชายเลน ล่องเรือชมหิ่งห้อย ชมแหล่งโบราณสถาน และโบราณวัตถุ ได้แก่ วัดเขาศรีวิชัย และวัดเขาพระอานนท์ ชมและเรียนรู้หัตถกรรมพื้นบ้านของกลุ่มอาชีพแม่บ้าน และวิถีชีวิตชาวบ้านลีเล็ด สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ทำการชุมชนลีเล็ด นำเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ หมู่ ๕ ตำบลลีเล็ด โทร. ๐ ๗๗๔๙ ๑๐๘๒, ๐๘ ๑๒๗๑ ๐๐๑๗
วัดเขาศรีวิชัย และวัดเขาพระอานนท์ เขาศรีวิชัย มีอายุกว่า ๑,๔๐๐ ปี ภายในบริเวณสระน้ำของวัดมีซากเรือสำเภาจากประเทศอินโดยนีเซียจมอยู่ เชื่อว่าเป็นเรือสินค้าที่เดินเรือในสมัยก่อน นอกจากนี้ยังได้พบซากเรือไม้ขุดหน้าวัดซึ่งเกิดจากการขุดทรายขึ้นมา สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ที่ทำการชุมชนลีเล็ดนำเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ โทร. ๐ ๗๗๔๙ ๑๐๘๒, ๐ ๑๒๗๑ ๐๐๑๗
อำเภอเคียนซา
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองทุ่งทอง อยู่ตำบลเขาตอก มีเนื้อที่ ๓๘,๔๓๘ ไร่ ประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๒๘ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ลุ่มสลับกับหนองน้ำ มีหนองน้ำใหญ่เป็นที่อาศัยของนกและสัตว์น้ำอยู่ถึง ๕ แห่ง หนองน้ำที่ใหญ่ที่สุดคือ หนองทุ่งทอง มีเนื้อที่ ๒,๕๐๐ ไร่ มีไม้ที่มีค่าและเป็นไม้หวงห้าม คือ จันทร์กะพ้อ และสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด ได้แก่ เป็ดแดง ยางโทนใหญ่ นากเล็กเล็บสั้น นกยางกรอดพันธุ์จีน และนกชนิดต่างๆ กว่า ๗๐ ชนิด ซึ่งอพยพถิ่นอาศัยมาจากเขตหนาว ช่วงที่มีนกมากที่สุด คือเดือนตุลาคม-มีนาคม บริเวณอุทยานฯ มีบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อุณหภูมิ ๕๐–๖๐ องศาเซลเซียส และมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบ่อน้ำร้อน ระยะทาง ๑ กิโลเมตร เป็นทางราบเดินสบาย มีป้ายสื่อความหมาย สามารถเดินเองได้
การเดินทาง จากอำเภอเมือง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๑ แยกซ้ายบริเวณหลักกิโลเมตรที่ ๑๙ เข้าอำเภอเคียนซา ใช้เส้นทางหมายเลข ๔๑๕๓ ระยะทาง ๒๔ กิโลเมตร จากอำเภอเคียนซา ใช้เส้นทาง รพช. สายบ้านน้ำเกลี้ยง-บ้านเคียนซา ประมาณ ๓ กิโลเมตร
อำเภอบ้านนาสาร
อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติปากคลองน้ำเฒ่า อำเภอบ้านนาสาร อำเภอกาญจนดิษฐ์ และอำเภอเวียงสระ มีเนื้อที่ ๒๖๕,๖๒๕ ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๓๔ เป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ยาง ตะเคียน หลุมพอ เสียดช่อ เคี่ยม และสะตอ บริเวณยอดเขาที่มีเมฆหมอกปกคลุมเกือบตลอดปี จะพบป่าอีกชนิดหนึ่ง คือป่าดิบเขา พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เหมือด กำยาน บังตาน เป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำตาปี พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหินอัคนี ที่เกิดจากการยกตัวและระเบิดของภูเขาไฟ อุทยานฯ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมมี ๒ ฤดู คือ ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายน และฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม สัตว์ป่าที่พบ ได้แก่ เลียงผา เก้ง กระจง หมูป่า ช้าง สมเสร็จ และเสือโคร่ง นอกจากนั้นยังมี ค่าย ๑๘๐ และค่าย ๓๕๗ ซึ่งเป็นค่ายพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีต
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ
น้ำตกดาดฟ้า เป็นน้ำตกที่สูงใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มี ๑๐ ชั้น ชั้นสูงสุดเป็นหน้าผาสูงชัน ๘๐ เมตร ในฤดูฝนน้ำจะไหลแรงเต็มหน้าผาราวกับไหลลงมาจากฟากฟ้า จึงได้ชื่อว่า “ดาดฟ้า” และยังเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง ๑๕ กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน ๒ วัน ต้องพักค้างแรมในป่า ๑ คืน โดยเริ่มจากเขาหนามเตย จนมาถึงน้ำตกดาดฟ้า
การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๐๙ สายอำเภอบ้านนาสาร-สุราษฎร์ธานี ห่างจากตัวเมือง ๓๓ กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวเข้าถนน รพช. เข้าสู่น้ำตกประมาณ ๑๓ กิโลเมตร
น้ำตกเหมืองทวด เป็นน้ำตกสูง ๗ ชั้น บริเวณน้ำตกร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ การเดินทาง สามารถเดินทางจากอำเภอ
บ้านนาสาร โดยเริ่มจากอำเภอบ้านนาสารไปตามทางหลวงแผ่นดินสายนาสาร-บ้านส้อง ประมาณ ๑๒ กิโลเมตร แล้วแยกไปตามถนนบ้านช่องช้าง-เหมืองทวด ประมาณ ๘ กิโลเมตร ตลอดเส้นทางเป็นถนนลาดยาง
เขาหนอง เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดสุราษฎร์ธานี สูง ๑,๕๓๐ เมตร มีเมฆหมอกปกคลุมยอดเขาและสภาพอากาศเย็นชื้นตลอดปี พันธุ์ไม้เป็นป่าดิบเขามีมอสและตะไคร่น้ำเกาะตามลำต้นอย่างหนาแน่น
ถ้ำขมิ้น หรือ ถ้ำเหม็น ที่มีชื่อเรียกเช่นนี้เพราะมีมูลค้างคาวที่อาศัยอยู่จำนวนมากภายในถ้ำ เป็นถ้ำที่เป็นจุดท่องเที่ยวเด่นของอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ถ้ำนี้เป็นถ้ำหินปูนที่กว้างใหญ่ ยาวประมาณ ๒ กิโลเมตร ภายในถ้ำนอกจากจะได้ชมความงามของหินงอกหินย้อยแล้ว จะได้พบกับ ศาลท่านขุน ที่ปากถ้ำซึ่งเป็นที่เคารพของชาวบ้าน ลานรถจี๊ป เป็นห้องใหญ่ที่มีร่องรอยของรถจี๊ปในสมัยที่มีการทำสัมปทานมูลค้างคาว ลานท่านขุน เป็นทำนบหินปูน มีหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่ เรียกว่า “เสาเอก” และ “หลักชัย” ช่องฟ้า เป็นช่องที่ทะลุเพดานถ้ำได้ ม่านสีชมพู เป็นม่านหินปูนที่มีลวดลายเป็นริ้ว ๆ สีชมพู มองดูเป็นภาพพระพุทธรูปปางสมาธิ ม่านฟ้า เป็นม่านหินย้อยขนาดใหญ่ บางจุดดูคล้ายเศียรช้าง และบริเวณถ้ำขมิ้นสามารถกางเต็นท์ได้ โดยติดต่อล่วงหน้าที่ หัวหน้าหน่วยใต้ร่มเย็น (ถ้ำขมิ้น) โทร. ๐ ๑๔๗๖ ๑๗๕๙, ๐ ๑๒๗๒ ๔๔๑๑
สันเย็น เป็นแนวสันเขา มองจากระยะไกลจะเห็นแนวเขาเรียบเสมอเป็นทิวยาว สูงประมาณ ๑,๐๐๐–๑,๓๐๐ เมตร มีสัตว์ป่าและพันธุ์พืชหลายชนิดที่ไม่สามารถพบเห็นตามป่าเบื้องล่าง
อุทยานฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจที่อยู่ในอำเภออื่น ๆ อาทิ อำเภอเวียงสระ มี น้ำตกสามห้าเจ็ด เป็นน้ำตกสูง ๒๕ เมตร มีน้ำตลอดปี น้ำตกคลองน้ำเฒ่า มี ๒ ชั้น ชั้นที่ ๒ มีน้ำไหลลาดลงมาเป็นสามสายดูสวยงาม สูง ๓๕ เมตร น้ำตกคลองคันเบ็ด มี ๗ ชั้น ส่วนในอำเภอกาญจนดิษฐ์ มี น้ำตกเพชรพนมวัฒน์ เป็นน้ำตกสวยสูง ๓๐ เมตร และเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเขาหนามเตย ระยะทาง ๑,๙๐๐ เมตร ใช้เวลาเดินเกือบ ๒ ชั่วโมง โดยเริ่มจากศาลาทรงงานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ภายในโครงการจุฬาภรณ์ และสิ้นสุดที่ค่ายพักแรมจุฬาภรณ์ เส้นทางนี้จะศึกษาเกี่ยวกับระบบนิเวศของป่าดิบชื้น ซึ่งเป็นป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุด
อุทยานฯ มีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยว จำนวน ๒ หลัง ราคา ๑,๕๐๐ บาท และมีสถานที่กางเต็นท์ แต่ต้องเตรียมอุปกรณ์การพักแรมไปเอง รายละเอียดสอบถามได้ที่ อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ตู้ ปณ.๑๒ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๘๔๐๐๐
โทร. ๐ ๗๗๓๔ ๔๖๓๓ หรืองานบริการบ้านพัก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. ๐ ๒๕๖๒ ๐๗๖๐
การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ไปตามทางหลวงหมายเลข ๔๐๐๙ สายสุราษฎร์ธานี-บ้านนาสาร ระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร ถึงบ้านเฉียงพร้า ตรงข้ามโรงเรียนควนสุบรรณ เลี้ยวซ้ายไปตามถนน รพช. อีก ๑๕ กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ
อำเภอเกาะสมุย
เกาะสมุย เกาะที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อยู่บริเวณอ่าวไทย ห่างจากสุราษฎร์ธานีไปทางทิศตะวันออก ๘๔ กิโลเมตร มีเนื้อที่ ๒๔๗ ตารางกิโลเมตร ถนนรอบเกาะ (ถนนสายทวีราษฎร์ภักดี) ยาว ๕๒ กิโลเมตร พื้นที่ ๑ ใน ๓ ของเกาะเป็นที่ราบ ล้อมรอบภูเขา ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงคลื่นลมสงบเหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด เกาะสมุย เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยทรายขาวมีชื่อหลายแห่ง อาทิ หาดเฉวง หาดนาเทียน หาดตลิ่งงาม หาดละไม นักท่องเที่ยวที่ต้องการหาดทราย ทะเล สายลม และแสงแดด ชายหาดที่ทอดยาวขนานไปกับทะเล ต้นมะพร้าวริมชายหาดและน้ำทะเลใสสวย ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยไปสมุยมาแล้วต้องหวนกลับไปอีกครั้งแล้วครั้งเล่า อาหารทะเลสด ๆ ก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ชวนให้นึกถึง
นอกจากทะเลสวยน้ำใส เกาะสมุยยังมีกิจกรรมที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลกบริการนักท่องเที่ยว นั่นก็คือ สปา….หรือการดูแลรักษาสุขภาพด้วยการใช้น้ำบำบัด เช่น การอาบ การแช่น้ำ อาจจะเป็นน้ำแร่ หรือน้ำร้อน การบำบัดโดยการนวด หรือ การใช้พฤกษาบำบัด โดยใช้กลิ่นพืชพรรณธรรมชาติช่วยในการคลายเครียด ซึ่งมีสถานที่บริการอยู่หลายแห่ง ทั้งในโรงแรมและศูนย์สปาโดยเฉพาะ มีบรรยากาศ ความสะดวกสบาย และการบริการที่ดีเยี่ยม ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริง และสำหรับนักกอล์ฟที่นี่ก็มีสนามกอล์ฟให้ได้ออกกำลังกายอีกด้วย
ความสวยงามทางธรรมชาติ ความสะดวกสบายของเกาะสมุย ยังผสมผสานด้วยศิลปวัฒนธรรมของชาวพื้นถิ่นที่ยังคงเป็นรากฐานของความเป็นมาของชุมชนอีกหลายแห่งบนเกาะ เช่น วัดสำเร็จ วัดละไม เจดีย์แหลมสอ เป็นต้น
การเดินทางไปเกาะสมุย
รถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพงทุกวัน การรถไฟฯ มีตั๋วร่วมกรุงเทพฯ-เกาะสมุย ลงรถที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีอำเภอพุนพิน และต่อรถประจำทางไปที่ท่าเรือดอนสักเพื่อข้ามเรือเฟอรี่ไปเกาะสมุย สอบถามรายละเอียด โทร. ๑๖๙๐, ๐ ๒๒๒๓ ๗๐๑๐, ๐ ๒๒๒๓ ๗๐๒๐ บริษัท ส่งเสริมรุ่งเรือง โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๗๘๙๗ หรือ www.railway.co.th
รถโดยสารประจำทาง มีบริการรถโดยสารปรับอากาศ และรถโดยสารธรรมดาจากกรุงเทพฯ เดินทางโดยตรงถึงเกาะ
สมุย โดยไม่รวมค่าโดยสารเรือเฟอร์รี่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๔ ชั่วโมง รายละเอียดติดต่อ บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. ๐ ๒๔๓๕ ๑๑๙๙, ๐ ๒๔๓๕ ๑๒๐๐ (รถปรับอากาศ) โทร. ๐ ๒๔๓๔ ๕๕๕๗-๘ (รถธรรมดา) และบริษัท โสภณทัวร์ โทร. ๐ ๒๔๓๕ ๕๐๒๓, ๐ ๒๔๓๕ ๗๔๗๗ (รถออกวันเว้นวัน) บริษัท ศรีสุเทพ โทร. ๐ ๒๘๘๔ ๕๕๗๗, ๐ ๒๘๘๔ ๕๕๙๙ (รถออกวันเว้นวัน) หรือ www.transport.co.th
เครื่องบิน บริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ทุกวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑ ชั่วโมง ๑๐ นาที นอกจากนี้ยังมีเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-หัวหิน-สมุย ภูเก็ต-เกาะสมุย อู่ตะเภา-เกาะสมุย เกาะสมุย-กระบี่ เกาะสมุย-สิงคโปร์ เกาะสมุย-อู่ตะเภา-พนมเปญ บริการอีกด้วย สอบถามรายละเอียด โทร. ๐ ๒๒๖๕ ๕๕๕๕ หรือเกาะสมุย โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๒๕๑๒-๙
หรือ www.bangkokair.com
เรือโดยสาร
๑. เรือเฟอร์รี่
บริษัท ราชาเฟอร์รี่ จำกัด มีเรือออกจากท่าเรือดอนสัก บริเวณแหลมกุลา ตำบลดอนสัก ห่างจากที่ว่าการอำเภอดอนสักประมาณ ๗ กิโลเมตร ไปท่าเรืออ่าวท้องยาง เกาะสมุย ทุกวัน วันละ ๑๕ เที่ยว ตั้งแต่เวลา ๐๕.๐๐-๑๙.๐๐ น. ใช้เวลาเดินทาง ๑ ชั่วโมง ๓๐ นาที อัตราค่าโดยสารคนละ ๑๐๐ บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. ๐ ๗๗๔๗ ๑๑๕๑-๓ สำนักงานเกาะสมุย โทร. ๐ ๗๗๔๑ ๕๒๓๐-๓
บริษัท ซีทราน เฟอร์รี่ จำกัด มีเรือออกจากท่าเรือดอนสักไปท่าเรือเทศบาลหน้าทอน (เกาะสมุย) เวลา ๐๕.๐๐ - ๑๘.๐๐ น.ทุกวัน และเรือออกจากท่าเรือเทศบาลหน้าทอน เวลา ๐๖.๐๐ - ๑๙.๐๐ น. ทุกวัน อัตราค่าโดยสารคนละ ๑๑๐ บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. ๐ ๗๗๒๕ ๑๑๕๐-๒ สำนักงานเกาะสมุย โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๖๐๐๐-๓
นอกจากนั้นมีรถบริการจากท่าเรือดอนสัก ไปอำเภอเมือง, สถานีรถไฟพุนพิน และสนามบินสุราษฎร์ธานี ค่าโดยสารจากเกาะสมุยถึงสุราษฎร์ธานี คนละ ๑๘๐ บาท จากเกาะสมุยถึงสถานีรถไฟพุนพิน ค่าโดยสารคนละ ๑๘๐ บาท จากเกาะสมุยถึงสนามบิน
สุราษฎร์ธานี ค่าโดยสารคนละ ๒๒๐ บาท
๒. เรือด่วน
บริษัท ส่งเสริมรุ่งเรือง จำกัด มีเรือออกจากสุราษฎร์ธานีไปยังท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุย วันละ ๑ เที่ยว เวลา ๐๘.๐๐ น. ใช้เวลาเดินทาง ๒ ชั่วโมง ๓๐ นาที อัตราค่าโดยสาร ๑๕๐ บาท และออกจากเกาะสมุย เวลา ๑๓.๓๐ ถึงสุราษฎร์ธานี เวลา ๑๖.๐๐ น. นอกจากนี้ บริษัท ส่งเสริมรุ่งเรือง จำกัด มีบริการรถปรับอากาศออกจากกรุงเทพฯ วันละ ๑ เที่ยว เวลา ๑๗.๐๐ น. ถึงเกาะสมุย เวลา ๑๑.๐๐ น. ของวันรุ่งขึ้น รายละเอียดติดต่อ โทร. ๐ ๗๗๒๘ ๗๑๒๔, ๐ ๗๗๒๘ ๙๘๙๔ สำนักงานเกาะสมุย โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๐๑๕๗, ๐ ๗๗๔๒ ๐๙๓๓, ๐ ๗๗๔๒ ๖๐๙๒, ๐ ๗๗๔๒ ๖๐๙๑
บริษัท ซีทราน เฟอร์รี่ จำกัด (เรือซีทราน เอ็กเพรส) มีเรือออกจากท่าเรือดอนสัก ไปยังท่าเรือหน้าทอน เกาะสมุย วันละ ๒ เที่ยว เวลา ๘.๐๐ และ ๘.๓๐ น. ใช้เวลาเดินทาง ๓๐ นาที อัตราค่าโดยสารคนละ ๒๕๐ บาท (รวมค่ารถโดยสารจากสุราษฎร์ธานี) รายละเอียดติดต่อ โทร. ๐ ๗๗๔๗ ๑๑๗๔-๗ สำนักงานเกาะสมุย ๐ ๗๗๔๒ ๖๐๐๐-๑ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๒๔๐ ๒๕๘๒ โทรสาร ๐ ๒๒๔๙ ๕๙๕๑
๓. เรือนอน ติดต่อได้ที่ท่าเรือบ้านดอน เรือออกเวลา ๒๓.๐๐ น. ถึงเกาะสมุย เวลา ๐๕.๐๐ น. ค่าเรือโดยสารคนละ ๑๐๐ และ ๑๕๐ บาท และมีเรือออกจากเกาะสมุย เวลา ๒๑.๐๐ น. ถึงสุราษฎร์ธานี เวลา ๐๔.๐๐ น.
การเดินทางบนเกาะสมุย
มีรถสองแถววิ่งบริการรอบเกาะผ่านสถานที่ต่าง ๆ เช่น ท่าเรือหน้าทอน ท่าเรือเฟอรร์รี่ ตลอดจนหาดต่าง ๆ อัตราค่าโดยสาร ๑๐–๕๐ บาท นอกจากนี้ ยังมีรถตู้ปรับอากาศ และรถแท็กซี่ มิเตอร์ให้บริการอีกด้วย
การเดินทางระหว่างเกาะสมุย-เกาะเต่า-เกาะพะงัน
จากเกาะสมุยสามารถเดินทางไปยังเกาะพะงันและเกาะเต่าได้ จากท่าเรือต่าง ๆ ได้แก่
ท่าเรือแม่น้ำ
เกาะสมุย-เกาะพะงัน
เรือธรรมดา เรือออกจากเกาะสมุย เวลา ๐๙.๓๐ น. ถึงเกาะพะงัน เวลา ๑๐.๓๐ น.
เรือคาตามารัน เรือออกจากเกาะสมุย เวลา ๐๘.๐๐ น. ถึงเกาะพะงัน เวลา ๐๘.๔๐ น.
เกาะพะงัน-เกาะเต่า
เรือธรรมดา เรือออกจากเกาะพะงัน เวลา ๑๑.๓๐ น. ถึงเกาะเต่า เวลา ๑๓.๓๐ น.
เรือคาตามารัน เรือออกจากเกาะพะงัน เวลา ๐๘.๕๐ น. ถึงเกาะเต่า เวลา ๑๐.๓๐ น.
เกาะสมุย-เกาะเต่า
เรือคาตามารัน เรือออกจากเกาะสมุย เวลา ๑๒.๓๐ น. ถึงเกาะเต่า เวลา ๑๕.๐๐ น.
เกาะเต่า-เกาะสมุย
เรือคาตามารัน เรือออกจากเกาะเต่า เวลา ๑๕.๐๐ น. ถึงเกาะสมุย เวลา ๑๗.๓๐ น.
ท่าเรือบ่อผุด
เกาะสมุย-เกาะเต่า
เรือ Speed Boat เรือออกจากเกาะสมุย เวลา ๐๘.๓๐ น. ถึงเกาะเต่า เวลา ๑๐.๐๐ น.
ท่าเรือพระใหญ่ (ติดกับ รร. Ocean View)
เกาะสมุย-เกาะพะงัน(หาดริ้นใน)
เรือธรรมดา เรือออกจากเกาะสมุย เวลา ๑๐.๓๐ น. ๑๓.๐๐ น. และ ๑๖.๐๐ น. ถึงเกาะพะงัน เวลา ๑๑.๒๐ น. ๑๓.๕๐ น. และ ๑๖.๕๐ น.
เกาะพะงัน (หาดริ้นใน)-เกาะสมุย
เรือธรรมดา เรือออกจากเกาะพะงัน เวลา ๐๙.๓๐ น. ๑๑.๓๐ น. และ ๑๔.๓๐ น. ถึงเกาะสมุย เวลา ๑๐.๒๐ น. ๑๒.๒๐ น. และ ๑๕.๒๐ น.
สถานที่น่าสนใจบนเกาะสมุย
ชายหาด เกาะสมุยมีชายหาดที่สวยงามอยู่หลายแห่งรอบเกาะ ชายหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อนกันมาก คือ หาดเฉวง และหาดละไม นอกจากนี้มีชายหาดที่อ่าวบางรัก บ้านบ่อผุด หาดหน้าทอน หาดท้องยาง หาดแม่น้ำ และหาดเชิงมน เป็นต้น
น้ำตก มีน้ำตกหินลาด น้ำตกลาดวานร และน้ำตกหน้าเมือง ห่างจากท่าเรือหน้าทอน ๓ กิโลเมตร ๖ กิโลเมตร และ ๑๔ กิโลเมตร ตามลำดับ เป็นน้ำตกที่ประชาชนนิยมมาเที่ยวพักผ่อนกันมาก ในฤดูฝนมีน้ำมาก การประปาสุขาภิบาลยังได้อาศัยน้ำจากน้ำตกหินลาดทำน้ำประปาสำหรับแจกจ่ายให้ประชาชนในตลาดหน้าทอน และบริเวณใกล้เคียงบริโภค และที่น้ำตกหน้าเมือง ๑ และ ๒ จะมีกิจกรรมการนั่งช้างบริการนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. ทุกวัน
พระใหญ่ หรือ พระพุทธโคดม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง ๕ วา ๙ นิ้ว ประดิษฐานอยู่บริเวณเกาะฟาน และเป็นที่ตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐานสำหรับให้ผู้สนใจปฏิบัติธรรมพักอาศัยได้
พระธาตุหินงู พระบรมสารีริกธาตุเกาะสมุย หรือชาวเกาะสมุยเรียกว่าพระธาตุศิลางู อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย ๑๗ กิโลเมตร ตามประวัติสร้างโดยชาวบ้านตำบลมะเร็ด ชื่อนายศรีทอง และได้มีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๘ โดยเจ้าคุณพระอรรถทัศสิสุทธิพงศ์แห่งวัดชีโทน อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นผู้มอบให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จมาทรงนมัสการ เมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๐๕ ชาวเกาะสมุยจึงถือเป็นประเพณีมีงานนมัสการสืบมา
เจดีย์แหลมสอ เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยหลวงพ่อแดง พระภิกษุที่เป็นที่เคารพนับถืออย่างยิ่งของชาวเกาะสมุย มรณภาพเพราะเรืออับปาง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๙ องค์พระเจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องสีทองทั้งองค์ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อยู่ริมทะเลเขตติดต่อระหว่างตำบลตลิ่งงาม-หน้าเมือง
วัดคุณาราม (วัดเขาโป๊ะ) บริเวณกิโลเมตรที่ ๑๓ ใกล้น้ำตกหน้าเมือง มีพระซึ่งชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อแดง หรือ หลวงพ่อแดง ปิยะสีโล (ท่านพระครูสมถกิตติคุณ) มรณภาพไปแล้วแต่ศพไม่เน่าเปื่อย บรรจุในโลงแก้ว ในท่านั่งวิปัสสนากรรมฐาน
ฟาร์มงูพังกา ตั้งอยู่ที่ ๘๘/๒ หมู่ที่ ๔ ตำบลตลิ่งงาม ภายในฟาร์มเลี้ยงงูทุกชนิด มีราชินีแมงป่องและราชันตะขาบ มีการแสดงของคนกับงูวันละ ๓ รอบ เวลา ๑๑.๐๐ น. ๑๒.๓๐ น. และ ๑๔.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ ๑๕๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ๓๐๐ บาท เด็ก ๒๐๐ บาท รายละเอียดติดต่อฟาร์มงู โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๓๒๔๗, ๐ ๗๗๓๓ ๔๑๒๐
บ้านควายไทยสมุย ตั้งอยู่ที่ ๒๐ หมู่ ๑ ตำบลหน้าเมือง บนเนื้อที่ ๓๕ ไร่ เป็นที่แสดงถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การดำรงชีวิตตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้ของชาวนาไทย แสดงการทำนาปลูกข้าว การดำนา การเก็บเกี่ยว การตำข้าวโดยใช้ครก การใช้ควายกับคันไถในการพรวนดินแทนรถแทรกเตอร์ รวมทั้งแสดงการละเล่นของชาวนาในช่วงหลังเสร็จสิ้นการทำนา อาทิ การเล่นดนตรีบนหลังควาย เพื่อเป็นการผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการทำนา นอกจากนั้นภายในบริเวณยังได้จำลองให้เห็นและสัมผัสกับบรรยากาศแบบไทย ที่นี่มีบริการนั่งเกวียน หรือนั่งบนหลังควายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เปิดให้เข้าชมเวลา ๐๙.๐๐-๑๗.๐๐ น. สำหรับการแสดงจะมี ๒ รอบ คือ เวลา ๑๐.๐๐ น. และ ๑๕.๐๐ น. ทุกวัน ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ ๒๐๐ บาท เด็ก ๑๗๕ บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ๓๕๐บาท เด็ก ๒๒๕ บาท สอบถามข้อมูล โทร. ๐ ๗๗๔๑ ๘๖๘๐ โทรสาร ๐ ๗๗๔๑ ๘๖๘๐
หินตา หินยาย อยู่บริเวณอ่าวละไม ตำบลมะเร็ด เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของหินแกรนิตเกิดจากการกัดเซาะโดยน้ำทะเลและความร้อนจนเกิดเป็นโขดหินรูปร่างประหลาด มีนิทานท้องถิ่นเล่ากันต่อๆ มาว่า นานมาแล้ว มีตายายคู่หนึ่งชื่อ ตาเครงกับยายเรียม เป็นชาวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางโดยเรือใบเพื่อจะไปสู่ขอลูกสาวของตาม่องล่าย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้กับลูกชาย ครั้นเรือแล่นมาถึงบริเวณอ่าวละไม เกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่ม ทั้งตาและยายเสียชีวิต คลื่นซัดขึ้นเกยหาดและกลายเป็นหินที่เห็นในปัจจุบันนี้
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดละไม อยู่ในวัดละไม เป็นอาคารไม้ ๒ ชั้น เป็นที่รวบรวมของเก่า เครื่องมือเครื่องใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้านบนเกาะและที่อื่น ๆ ในภาคใต้ เช่น ตะเกียงโบราณแบบต่าง ๆ กรงนกเขา กลองมโหระทึก อายุกว่า ๓๐๐ ปี เป็นศิลปกรรมในยุคโลหะของวัฒนธรรมดองซอนตอนเหนือของเวียดนาม ค้นพบเมื่อปี ๒๕๔๓ ใช้ในพิธีกรรมขับไล่ผี ขอฝน เป็นต้น
สวนผีเสื้อสมุย ตั้งอยู่บนเนินเขาติดทะเลทางทิศใต้ของเกาะสมุย บริเวณแหลมนาเทียน ห่างจากหมู่บ้านชาวประมงบ้านหัวถนน ๓ กิโลเมตร มีเนื้อที่ ๒๐ ไร่ ภูมิประเทศเป็นเนินเขาที่ค่อยๆ ลาดลงสู่ทะล มีส่วนที่เป็นสวนพฤกษศาสตร์จัดเป็นสวนหินปลูกไม้ดอกไม้ประดับ รวบรวมพันธุ์ไม้ไทย พืชสมุนไพรและไม้ป่านานาชนิด เพื่อจัดเป็นที่อยู่สำหรับผีเสื้อ และมีบริเวณที่จัดไว้สำหรับนักท่องเที่ยวได้ชมเช่น บ้านผึ้ง เป็นบ้านไม้ไทย ภายในเป็นห้องมืดจัดแสดงการเจริญเติบโตของผึ้งในรังอย่างละเอียด พิพิธภัณฑ์แมลง จัดแสดงพันธุ์แมลงทั้งพันธุ์ไทยและพันธุ์ต่างประเทศ สวนผีเสื้อสมุยเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๐๘.๓๐-๑๗.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชมผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ๒๐๐ บาท เด็ก ๑๐๐ บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๔๐๒๐–๒๑
ศูนย์ลิงสมุย อยู่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเขาพระ หมู่ที่ ๑ ตำบลบ่อผุด มีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านไทยและการแสดงการฝึกลิงเปิดแสดงทุกวันๆ ละ ๓ รอบ คือ ๑๐.๓๐ น. ๑๔.๐๐ น. และ ๑๖.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ๓๐๐ บาท เด็ก ๑๕๐ บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. ๐ ๗๗๙๖ ๐๑๒๘-๙, ๐๘ ๗๑๓๘ ๐๐๑๘
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสมุยและสวนเสือ อยู่ที่อ่าวแหลมเส็ต มีการแสดงสัตว์น้ำหลากชนิดที่น่าสนใจ เสือเบงกอล เสือดาว เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. ค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๔๐๐ บาท เด็ก ๒๐๐ บาท รายละเอียด โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๔๐๑๗-๘, ๐ ๗๗๒๓ ๒๑๙๘ โทรสาร ๐ ๗๗๔๒ ๔๐๑๙
ฟาร์มจระเข้ ตั้งอยู่ภายในแค้มป์ช้าง บริษัท หน้าเมือง ซาฟารี ปาร์ค มีการแสดงจระเข้ วันละ ๒ รอบ เวลา
๑๑.๐๐ น. และ ๑๔.๐๐ น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ ๒๕๐ บาท เด็ก ๑๒๐ บาท
แหล่งดูปะการัง อยู่บริเวณชายฝั่งของเกาะสมุย รวมทั้งที่อยู่ติดกับเกาะอื่นๆ เช่น เกาะเต้าปน เกาะส้ม เกาะมัดหลัง เกาะนาเทียน และเกาะราหิน การเช่าเรือ และอุปกรณ์ดำน้ำติดต่อที่บังกะโลและบริษัทนำเที่ยวบนเกาะสมุย
เกาะแตน ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๒ ตำบลตลิ่งงาม บริเวณตอนใต้ของเกาะสมุย เป็นเกาะที่งดงามด้วยธรรมชาติอันเงียบสงบ ชายหาดยาวทิวมะพร้าวเรียงราย ทางฝั่งตะวันออกเป็นชายหาดยาวขนานกับแนวปะการังชายฝั่ง เรียกว่า อ่าวออก ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นอ่าวปิด มีป่าชายเลนไม่กว้างนักและหาดหิน เรียกว่า อ่าวตก มีแนวปะการังและชายฝั่งที่ค่อนข้างสมบูรณ์ สิ่งที่น่าสนใจบนเกาะนี้คือไม่มีสุนัขอาศัยอยู่บนเกาะ มีการสันนิฐานกันหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเพราะเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ หรือเทพารักษ์ไม่ต้องการสุนัข หรือการอธิบายทางวิทยาศาสตร์ เช่น เกาะแตน มีคลื่นเสียง สนามแม่เหล็ก หรือเชื้อโรคบางอย่างที่เป็นอันตรายต่อสุนัข เป็นต้น จนไม่มีใครกล้าจะนำสุนัขมาลองเลี้ยงดู เพราะไม่เคยมีสุนัขตัวไหนมีชีวิตอยู่รอดได้ นอกจากนั้นบริเวณเกาะใกล้เคียง เช่น เกาะมัดสุม เกาะมดแดง มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สวยงามสามารถดำน้ำตื้นได้ บนเกาะมีที่พักบริการ
นอกจากความสมบูรณ์ของป่าและธรรมชาติบนเกาะแล้ว เกาะแตนยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ๔ เส้นทาง ซึ่งทุกเส้นทางนักท่องเที่ยวจะเห็นความแตกต่างของสภาพภูมิประเทศและความเป็นอยู่ของชาวเกาะแตน โดยเฉพาะ ๓ เส้นทางแรกจะได้พบกับนกหลากชนิดที่อาศัยอยู่บนเกาะแตน จึงควรที่จะเตรียมกล้องส่องดูนก กล้องถ่ายรูป และสมุดบันทึกติดตัวไปด้วยเพื่อเป็นการบันทึกความทรงจำและความประทับใจที่ได้พบ สำหรับเส้นทางที่ ๔ เป็นเส้นทางทางทะเล จะได้พบความสวยงามของใต้ทะเลและชายฝั่งของเกาะแตนทั้งบนบกและในน้ำ เส้นทางทั้ง ๔ เส้นทาง ได้แก่
๑. เส้นทางศึกษาธรรมชาติสายตะวันตก เป็นเส้นที่จะแสดงให้เห็นความเป็นมาในการใช้พื้นที่ และความเป็นมาของชุมชนในอดีต รวมทั้งจะได้เห็นและเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศสภาพป่าบกสู่พื้นที่ชุ่มน้ำ (พรุและป่าชายเลน) ลงสู่ชายฝั่งทะเล (เชื่อมกับเส้นทางสายที่ ๔) เส้นทางนี้ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างอ่าวออกและอ่าวตกในปัจจุบัน สามารถเดินเป็นวงกลม ระยะทาง ๓,๑๐๐ เมตร มีจุดศึกษาธรรมชาติ และจุดพักผ่อนประมาณ ๑๓ จุด เส้นทางเดินสะดวกเป็นพื้นราบและโล่ง และอาจจะได้พบนกต่าง ๆ จึงควรเตรียมกล้องส่องดูนก กล้องถ่ายรูป และสมุดบันทึกติดตัวไปด้วย
๒. เส้นทางศึกษาธรรมชาติสายใต้ เป็นเส้นทางสายเขาเคี่ยม ซึ่งเป็นยอดเขาสูงที่สุดของเกาะ ระยะทาง ๑,๔๐๐ เมตร โดยเริ่มเดินจากท่าเรืออ่าวออกไปสำนักสงฆ์บ้านเกาะแตน (วัดบ่อม่วง) ขึ้นเขาเคี่ยม และไปสิ้นสุดที่ผาพม่านี้ เส้นทางเดินค่อนข้างมีต้นไม้รกทึบ ทางลาดชัน ใช้เวลาเดินประมาณ ๕-๖ ชั่วโมง ตามเส้นทางแสดงให้เห็นสภาพป่าดิบแล้งในภาคใต้ ที่เคยถูกทำลายเพื่อทำการกสิกรรม ปัจจุบันป่าเริ่มฟื้นสภาพกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
๓. เส้นทางศึกษาธรรมชาติสายเหนือ เป็นเส้นทางภายในชุมชนอ่าวออกบ้านเกาะแตน จากท่าเรือ (คอรัลบีช บังกะโล) ถึงเชิงเขาตีน ระยะทาง ๓,๒๐๐ เมตร เส้นทางนี้จะได้สัมผัสสภาพชุมชนเกาะแตนและสภาพธรรมชาติ พันธุ์ไม้และสวนผสมของชุมชนอ่าวออก เป็นเส้นทางเดินที่สะดวกสบายที่สุด
๔. เส้นทางศึกษาธรรมชาติทางทะเล เป็นเส้นทางที่ศึกษาชายฝั่งรอบเกาะ ให้ผู้สนใจได้สัมผัสชีวิตสัตว์น้ำ พืชน้ำและปะการังสวยงาม ตลอดจนสภาพธรรมชาติใต้ท้องทะเลเกาะแตน ระยะทาง ๑๔ กิโลเมตร เป็นเส้นทางรอบเกาะ จากอ่าวออกไปอ่าวตก ผ่านแหลมหัวไทร หาดหินก้อน แหลมหินทั่ง และหาดไตจีน อ่าวตก แหลมหัวกรวด เกาะมดแดง หาดหน้าหลัก ผาแดง แหลมเทียน แล้วกลับมาที่อ่าวออกเป็นวงกลม เส้นทางนี้ต้องเดินทางด้วยเรือหางยาว ในช่วงลมสงบและเหมาะที่จะดำน้ำ การศึกษาควรจะเตรียมอุปกรณ์ เช่น หน้ากากดำน้ำ ชูชีพ และกล้องถ่ายรูปใต้น้ำ เพื่อจะได้เก็บความประทับใจกลับบ้าน
การเดินทางไปเกาะแตน สามารถเดินทางได้จากเกาะสมุย โดยเช่าเรือหางยาว จากบริเวณอ่าวท้องกรูด ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๓๐ นาที
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งที่สอง ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๓ อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๒๐ กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ ๖๓,๗๕๐ ไร่ เป็นพื้นดินเพียง ๕๐ ตารางกิโลเมตร นอกนั้นเป็นพื้นน้ำ ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ๔๒ เกาะ ส่วนมากเป็นเกาะหินปูน เกาะที่สำคัญได้แก่ เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะวัวจิ๋ว เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะไผ่ลวก เกาะคา เกาะหินดับ เกาะวัวกันตัง ฯลฯ หมู่เกาะนี้เดิมเป็นเขตหวงห้ามของทหารเรือ แต่ก็ได้มีราษฎรอพยพไปตั้งบ้านเรือน โดยประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าว จับปลา และเก็บรังนก (บนเกาะมีสัมปทานรังนกนางแอ่น) โดยขึ้นอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ
เกาะวัวตาหลับ เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านหน้าที่ทำการเป็นหาดทรายขาวสะอาดและใกล้ที่ทำการอุทยานฯมี ถ้ำบัวโบก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างคล้ายบัวบาน ถัดไปมีทางเดินขึ้นไปยัง จุดชมวิว บนยอดเขา ระยะทางเดินประมาณ ๔๐๐ เมตร ซึ่งจะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวไปบนพื้นน้ำสีครามเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม
ทะเลใน หรือ ทะเลสาบกลางภูเขา อยู่บนเกาะแม่เกาะเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาโดยเกิดจากแอ่งหินปูนที่ยุบตัว ทะเลในมีลักษณะเป็นวงรี กว้าง ๒๕๐ เมตร ยาว ๓๕๐ เมตร ลึก ๗ เมตร มีเนื้อที่ประมาณ ๓๐ ไร่ นั่งเรือยนต์จากที่ทำการอุทยานฯไปประมาณ ๑๕ นาที และเดินเท้าตามทางเดินสู่จุดชมวิวอีก ๔๐๐ เมตร จะเห็นทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของทะเลในสีเขียวมรกต รวมทั้งเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลเปิดซึ่งโอบรอบด้วยโขดเขาและแมกไม้ปกคลุม
เกาะสามเส้า ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับเกาะแม่เกาะ เป็นแหล่งปะการังและดอกไม้ทะเลที่สวยงามยาว ๑ กิโลเมตร มีสะพานหินธรรมชาติยื่นโค้งออกไปในทะเล จากเกาะสามเส้าจะมองเห็นประติมากรรมธรรมชาติคล้ายปราสาทหินตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาของเกาะแม่เกาะ นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์พักแรมบนเกาะได้ แต่ต้องเตรียมอาหารและน้ำจืดมาเอง
เกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง อยู่เลยจากเกาะแม่เกาะไปทางเหนือ เป็นจุดที่มีแนวปะการังที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง
เกาะหินดับ เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยงามและยาวที่สุดในอุทยานฯ สภาพรอบเกาะสวยงามประกอบด้วยแนวหินที่มีรูปร่างคล้ายแผ่นหินบาง ๆ ซ้อนขึ้นมาเหมือนประติมากรรม
ที่พัก อุทยานฯ มีบริการบ้านพัก จำนวน ๕ หลัง ราคา ๕๐๐-๑,๔๐๐ บาท มีเต็นท์บริการ ราคา ๑๕๐–๖๐๐ บาท/คืน และสถานที่กางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยวกรณีที่นำเต็นท์มาเอง เก็บค่าสถานที่หลังละ ๓๐ บาท รายละเอียดติดต่อ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โทร. ๐ ๗๗๒๘ ๖๐๒๕, ๐ ๗๗๒๘ ๐๒๒๒ โทรสาร ๐ ๗๗๒๘ ๖๕๘๘
การเดินทาง จากเกาะสมุยจะมีเรือโดยสาร ออกจากท่าเรือหน้าทอน เวลา ๐๘.๓๐ น. ขากลับเรือออกจากหมู่เกาะอ่างทอง เวลา ๑๕.๐๐ น. ใช้เวลาเดินทาง ๒ ชั่วโมง และบริษัททัวร์มีบริการนำเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองแบบไปเช้า-เย็นกลับรวมค่าอาหารเช้า กลางวัน เรือออกเวลา ๐๘.๓๐ น. และกลับเวลา ๑๗.๓๐น. ติดต่อบริษัท แอร์ซี จำกัด ค่าเรือราคา ๕๕๐ บาท ไม่รวมค่ารถรับส่ง และราคา ๖๕๐ บาท รวมราคารถรับส่ง เรือออกจากท่าบ่อผุด โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๒๒๖๒-๓ โทรสาร ๐ ๗๗๔๒ ๒๒๖๒ หรือ บริษัท ไฮเวย์ แทรเวิล จำกัด ค่าเรือราคา ๖๕๐บาท รวมค่ารถรับส่ง เรือออกจากท่าเรือหน้าทอน โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๑๒๙๐, ๐ ๗๗๔๒ ๑๒๘๕ หรือ บริษัท โอเวอร์ ซีทัวร์ เรือออกจากท่าเรือหน้าทอน เวลา ๐๘.๓๐ น. และกลับมาถึงเกาะสมุย เวลา ๑๖.๑๐ น. โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๑๑๓๑ ราคาค่าโดยสารคนละ ๖๕๐ บาท (รวมรถรับส่ง)
อำเภอเกาะพะงัน
เกาะพะงัน อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศเหนือ ประมาณ ๒๐ กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๓๐ นาที และอยู่ห่างตัวจังหวัด ๑๐๐ กิโลเมตร เกาะพะงันมีเนื้อที่ ๑๗๐ ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศของเกาะพะงันมีภูเขาอยู่ตรงกลางเกาะ ทอดตัวจากทิศเหนือจดทิศใต้ มีที่ราบทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ ส่วนทางทิศตะวันออกเป็นเทือกเขาจดทะเล บางแห่งก็มีอ่าวเล็กอ่าวน้อยเรือเข้าจอดได้เป็นบางฤดู ช่วงมรสุมตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนมกราคม จะมีลมตะวันออกพัดผ่านซึ่งไม่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว เกาะพะงันมีชายหาดขาว น้ำทะเลใสน่าเล่นน้ำหลายหาด ร่มรื่นด้วยทิวไม้ริมชายหาด ความเงียบสงบของชายหาดต่าง ๆ บนเกาะเป็นเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบ
การเดินทางไปเกาะพะงัน
สุราษฎร์ธานี-เกาะพะงัน
๑. เรือเฟอร์รี่ ของบริษัท ราชาเฟอร์รี่ ออกจากท่าเรือดอนสัก ไปเกาะพะงัน เวลา ๐๖.๐๐, ๐๗.๐๐ น. ๑๐.๐๐ น. ๑๓.๐๐ น. และ ๑๗.๐๐ น. ถึงเกาะพะงัน เวลา ๐๘.๓๐ น. ๐๙.๓๐ น. ๑๒.๓๐ น. ๑๕.๓๐ น. และ ๑๙.๓๐ น.
๒. เรือด่วน ของบริษัท ส่งเสริมรุ่งเรือง ออกจากสุราษฎร์ธานี วันละ ๑ เที่ยว เวลา ๐๘.๓๐ น. ถึงพะงัน เวลา ๑๒.๐๐ น.
๓. เรือนอน ติดต่อได้ที่ท่าเรือบ้านดอน เรือออกเวลา ๒๓.๐๐ น. ถึงเกาะพะงัน เวลา ๐๖.๐๐ น. ใช้เวลาประมาณ ๖ ชั่วโมง
เกาะสมุย-เกาะพะงัน
เรือด่วน บริษัท ส่งเสริมรุ่งเรือง ออกจากท่าเรือหน้าทอน วันละ ๔ เที่ยว เวลา ๐๙.๐๐ น. ๑๑.๐๐ น. และ ๑๔.๐๐ น.และ๑๖.๐๐ น. ใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง สอบถามข้อมูล โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๗๘๙๗ สำนักงานเกาะสมุย โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๐๑๕๗, ๐ ๗๗๔๒ ๐๙๓๓
สถานที่น่าสนใจบนเกาะพะงัน
ท้องศาลา เป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอเกาะพะงัน เป็นศูนย์กลางของการติดต่อค้าขายของธุรกิจต่างๆ และเป็นที่ตั้งของท่าเรือโดยสารสำหรับการเดินทางไปสุราษฎร์ธานี เกาะสมุย เกาะเต่า มีธนาคาร บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ท่าจอดรถสองแถว
อุทยานแห่งชาติน้ำตกธารเสด็จ เดิมชื่อวนอุทยานน้ำตกแพง มีพื้นที่ ๔๑,๒๕๐ ไร่ รวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะ
พะงัน และพื้นที่ป่าที่อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งเกาะต่างๆ ที่อยู่รอบเกาะพะงัน อุทยานฯ ยังคงสภาพของป่าที่สมบูรณ์ มีพืชหลากหลายชนิด และมีกล้วยไม้ที่ลำต้นใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ เพชรหึงหรือว่านหางช้าง โดยลำต้นที่มีความสูงกว่าสามเมตร เมื่อออกดอกก้านช่อดอกมีความยาวกว่าสองเมตร ดอกใหญ่ประมาณ ๑๐ เซนติเมตร กลีบดอกสีเขียวจนถึงเหลืองทอง และมีแต้มสีน้ำตาลแดงกระจายไปทั่ว ความสมบูรณ์ของป่าทำให้มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด อาทิ กวางป่า หมูป่า ค่างแว่นถิ่นใต้ และชะมด รวมทั้งนกต่าง ๆ อุทยานฯ มีต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์คือ ต้นพะงาหรือต้นวา มียอดเขาที่สูงที่สุดคือยอดเขาหรา สูง ๖๒๗ เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของเกาะพะงัน สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี การเดินทาง สามารถเช่ารถจากหาดท้องศาลาซึ่งอยู่ห่างจากอุทยานฯ ๕ กิโลเมตร
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ
น้ำตกแพง เป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานฯ เป็นน้ำตกที่สวยงามมีหลายชั้น เช่น แพงน้อย ธารน้ำรัก ธารกล้วยไม้ เป็นหนึ่งในสายธารเล็ก ๆ ของสายน้ำตกแพง (แพง ภาษาถิ่นหมายถึง เพิงหินเล็ก ๆ ที่ลดหลั่นอันแสดงถึงความชุ่มชื้นของผืนป่า) ที่มีน้ำไหลตลอดปีที่แสดงถึงความสมบูรณ์ของผืนป่า และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ น้ำตกแพง-จุดชมวิวโดมศิลา ระยะทาง ๒.๕ กิโลเมตร ใช้เวลา ๑ ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่เดินเลียบน้ำตก ทางชันเล็กน้อย ในเส้นทางจะพบพรรณไม้ต่าง ๆ ลำธารและน้ำตก ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ รวมทั้งกล้วยไม้เพชรหึง กล้วยไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานฯ อีกด้วย
จุดชมวิวโดมศิลา อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๕๐๐ เมตร เป็นจุดชมวิว และชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
น้ำตกธารเสด็จ อยู่ตำบลบ้านใต้ เป็นน้ำตกที่รัชกาลที่ ๕ เคยเสด็จประพาสและได้พระราชทานนามไว้ อีกทั้งเป็นน้ำตกที่ทรงโปรดมาก โดยได้เสด็จประพาสถึง ๑๔ ครั้งตลอดรัชกาล นอกจากนั้น รัชกาลที่ ๖ รัชกาลที่ ๗ พร้อมพระมเหสี และรัชกาลที่ ๙ ก็เคยเสด็จประพาส และได้จารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้ที่ก้อนหินบริเวณน้ำตกทุกพระองค์ การเดินทางไปน้ำตกธารเสด็จ สามารถไปได้ทั้งทางเรือและทางรถ หากเดินทางโดยทางเรือ เมื่อเริ่มเข้าอ่าวธารเสด็จจะพบความงามของภูเขาโขดหินที่มีรูปร่างแปลกๆ และหาดทรายสีขาว เมื่อขึ้นจากเรือแล้วเดินไปไม่ไกลนักจะพบกับลำธารมีกระแสน้ำไหลผ่านปะทะแก่งหินที่มีอยู่มากมาย ทำให้เกิดเสียงดังตามความเร็วของกระแสน้ำ ช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม ไม่สามารถนั่งเรือไปน้ำตกได้ และถ้าเป็นทางรถจะต้องเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงจึงจะสามารถเดินทางไปได้ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนการเดินทางจะลำบากมาก เพราะทางที่ผ่านจะเป็นทางลาดชันตลอดและเป็นภูเขาสูง การเดินทางจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
อุทยานฯ มีบริการสถานที่กางเต็นท์ นักท่องเที่ยวต้องนำเต็นท์มาเอง สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ อุทยานแห่งชาติน้ำตกธารเสด็จ-เกาะพะงัน ตู้ ป.ณ.๑ อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๘๔๒๘๐ หรือ ๑๐๘ หมู่ ๓ ตำบลเกาะพะงัน อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๘๔๒๘๐ โทร. ๐ ๗๗๒๓ ๘๒๗๕ ส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โทร. ๐
๒๕๖๑ ๒๙๑๘-๒๑
พระพุทธบาทจำลองบนภูเขาวัดมธุรวราราม (วัดมะเดื่อหวาน) อยู่ที่หมู่ที่ ๓ ตำบลเกาะพะงัน บนยอดเขานี้มีมณฑปพระพุทธบาทจำลอง จากเชิงเขาจะมีบันไดขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาทนับว่าสะดวกสบายมาก สำหรับพระพุทธบาทแห่งนี้ จะมีงานประเพณีนมัสการเป็นประจำทุกปี การเดินทาง สามารถเดินทางโดยรถสองแถวจากท้องศาลา ระยะทาง ๓ กิโลเมตร
ต้นยางใหญ่ เป็นต้นยางขนาดใหญ่มาก มีเส้นรอบวงประมาณ ๑๔ เมตร ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านใต้ ห่างจากที่ว่าการอำเภอ ๕ กิโลเมตร ใช้บริการรถสองแถววิ่งระหว่างท้องศาลา-บ้านค่าย
วัดเขาถ้ำ (สวนสุวรรณโชติการาม) ตั้งอยู่บนยอดเขาข้าวแห้ง หมู่ ๑ ตำบลบ้านใต้ เป็นสำนักสงฆ์ที่มีผู้นิยมมานั่งวิปัสสนาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน บริเวณวัดร่มรื่นสวยงาม อากาศเย็นสบาย ภายในมีพระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ และรูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผม เมื่อขึ้นไปบนเนินหินสูงที่สร้างมณฑปจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบเกาะได้ ส่วนทางไหล่เขาด้านหลังมีสิ่งที่น่าสนใจคือเพิงหินซึ่งมีลักษณะเป็นคูหา
การเดินทาง สามารถเดินทางไปโดยการเช่าเหมารถยนต์และรถจักรยานยนต์จากท้องศาลา ระยะทางจากท้องศาลาไปถึงปากทางขึ้นวัดเขาถ้ำ ระยะทาง ๓ กิโลเมตร และจากปากทางขึ้นไปบนวัดเขาถ้ำอีก ๑ กิโลเมตร
หาดริ้น ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ ตำบลบ้านใต้ ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ ๑๒ กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยและมีชื่อเสียงของเกาะพะงัน ความยาวของหาดประมาณ ๒ กิโลเมตร สามารถเดินทางไปหาดริ้นโดยเรือหางยาวจากท้องศาลาและจากบ้านค่าย นอกจากเป็นหาดที่สวยแล้วยังมีกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาชุมนุมกันในวันพระจันทร์เต็มดวง เรียกว่า ฟูลมูน ปาร์ตี้ ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนนับพันคนมาเต้นรำกันอย่างสนุกสนานจนมีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก
อ่าวท้องนายปาน ตั้งอยู่หมู่ที่ ๕ ตำบลบ้านใต้ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ ๒๓ กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยอันดับสองรองจากหาดริ้น สามารถเดินทางไปอ่าวท้องนายปานได้ทั้งทางเรือและทางรถยนต์ แต่ถ้าเป็นฤดูฝนจะเดินทางได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น บ้านโฉลกหลำ เป็นอ่าวอยู่ทางทิศเหนือของเกาะพะงัน เป็นอ่าวลึกกำบังคลื่นลมในบางฤดูได้เป็นอย่างดี แต่บางฤดูคลื่นลมจัดมากเรือเข้าจอดเทียบท่าไม่ได้ เวลาคลื่นลมสงบจะมีเรือประมงเข้ามาจอดเป็นจำนวนมาก พ่อค้าแม่ค้าจะตั้งร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ เช่นเดียวกับในตลาดใหญ่ สินค้าที่มีชื่อที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อกลับไปฝากคนที่อยู่ทางบ้านคือปลาหมึกตากแห้ง การเดินทาง จากท้องศาลา ระยะทาง ๑๕ กิโลเมตร ศาลเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่หมู่ที่ ๗ บ้านโฉลกหลำ ระยะทางจากท้องศาลาประมาณ ๙ กิโลเมตร สร้างเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๓๖ เมื่อขึ้นไปถึงหน้าศาลจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะพะงัน นับเป็นจุดชมวิวที่สวยงามจุดหนึ่ง การเดินทาง สามารถติดต่อรถสองแถวสายท้องศาลา-บ้านโฉลกหลำ
หาดแม่หาด ตั้งอยู่หมู่ที่ ๗ บ้านโฉลกหลำ ห่างจากที่ว่าการอำเภอ ๑๕ กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงามอีกหาดหนึ่งของเกาะพะงัน นักท่องเที่ยวเช่าเรือหรือนั่งรถสองแถวจากท้องศาลาได้
อ่าวศรีธนู ตั้งอยู่หมู่ที่ ๘ ตำบลเกาะพะงัน ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ ๑๐ กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยเป็นอันดับสามของเกาะพะงัน แต่ถ้าเป็นหน้ามรสุมคลื่นลมจะแรงมาก ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เกาะเต่า เป็นเกาะที่ตั้งโดดเดี่ยวในอ่าวไทย อยู่ห่างจากอำเภอเกาะพะงัน ๔๕ กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในอดีตกรมราชทัณฑ์ได้ใช้เป็นเรือนจำกักขังนักโทษการเมือง (กบฏบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ เกาะเต่ามีประชาชนมาอาศัยตั้งแต่ปี ๒๔๙๐ เป็นเกาะที่มีธรรมชาติและความสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล สวยงามด้วยแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ปลาหลากชนิดสีสวย ๆ มากมายที่นักดำน้ำจะต้องนึกถึง และชายหาดที่มีหาดทรายขาวสวยสงบน่าพักผ่อนหลายหาด มีโรงเรียนสอนดำน้ำหลายโรงเรียนที่มักจะมีนักดำน้ำหน้าใหม่แวะเวียนมาเรียนกันอยู่เสมอ ช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวคือ เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน บนเกาะมีบังกะโลหลายแบบหลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพัก การเดินทางบนเกาะเต่าสามารถเดินทางได้ทั้งทางเรือ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีบริการ ๒ เส้นทาง คือ จากท่าเทียบเรือไปทางทิศเหนือถึงหาดทรายรี และไปทางทิศใต้ถึงอ่าวลึก
สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเต่าและใกล้ ๆ เกาะเต่า
แหลมหิน จปร. เป็นที่ตั้งของหินสลักพระปรมาภิไธยย่อของรัชกาลที่ ๕ ตั้งอยู่ริมหาดทรายรี เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของการเสด็จประพาสทางทะเล
แหลมตาโต๊ะ มีจุดชมวิวจอห์น-สุวรรณบนยอดเขา เห็นทิวทัศน์อ่าวเทียนออกและอ่าวโฉลกบ้านเก่า มีสวนมะพร้าวสลับก้อนหิน
หาดทรายรี เป็นชายหาดที่ยาวที่สุด มีทรายขาว แนวปะการังขนานชายหาด
อ่าวลึก อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ ล้อมรอบด้วยหน้าผา มีแหลมหินสวยงาม เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการัง
เกาะกงทรายแดง เป็นเกาะขนาดเล็ก มีปะการังและปลาสวยงามมากมายให้ชื่นชม และยังเป็นจุดดำน้ำลึกที่ดีจุดหนึ่ง
อ่าวแหลมเทียน เป็นอ่าวเล็ก ๆ ติดหน้าผา มีโขดหินสวยงาม มีปะการังน้ำตื้น และปลาสีสวยลายแปลก
อ่าวโตนด อยู่ด้านตะวันออกเป็นแหล่งดูปะการัง มีหน้าผาต่อเนื่องไปถึงแหลมเทียน มีทัศนียภาพสวยงาม
กองหินชุมพร กองหินใต้น้ำอยู่ห่างจากเกาะเต่าไปทางชุมพร นั่งเรือประมาณ ๙๐ นาที ปะการังอยู่ในระดับความลึก ๑๒๐ ฟุต มีปลาชุกชุม
กองหินเขียว อยู่ด้านทิศตะวันตกท้ายเกาะนางยวน ปะการังอยู่ในระดับความลึก ๑๑ ฟุต มีพื้นเป็นสีเขียวหม่น และดอกไม้ทะเลสมบูรณ์
กองหินขาว กองหินใต้น้ำอยู่ด้านทิศตะวันตกท้ายเกาะนางยวน ปะการังอยู่ในระดับความลึก ๙๐ ฟุต เป็นกองหินก้อนโต วางพิงเทินกันอยู่มีดอกไม้ทะเล และปลาชุกชุม
เกาะนางยวน อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า เป็นเกาะที่มีเกาะเล็ก ๆ ๓ เกาะเชื่อมกัน สงบ สามารถเห็นหาดทรายเชื่อมกันเวลาที่น้ำลง เป็นเกาะที่มีหาดทรายเนื้อละเอียดขาว น้ำทะเลใส น่านั่งเล่นและพักผ่อนสำหรับผู้ที่นิยมความสงบ เป็นเกาะที่มีปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่ยังสมบูรณ์และสวยงามที่นักท่องเที่ยวนิยมดำน้ำมักจะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนอยู่เสมอ บนเกาะยังมีจุดชมวิวที่มองหาดทรายสามหาดเชื่อมต่อกันได้อย่างสวยงาม และมีที่พักเอกชนที่ปลูกอยู่ตามไหล่เขาที่สามารถมองเห็นความงามของท้องทะเลได้อยุ่หนึ่งแห่ง
การเดินทางไปเกาะเต่า
เรือด่วน ของบริษัท ส่งเสริมรุ่งเรือง มี ๓ เส้นทาง คือ
เกาะสมุย-เกาะเต่า ระยะทาง ๗๔ กิโลเมตร มีเรือออกจากเกาะสมุย ที่ท่าเรือหน้าทอน เวลา ๐๙.๐๐ น. และ ๑๑.๐๐ น. และจะแวะพักรับผู้โดยสารที่เกาะพะงัน เวลา ๑๑.๐๐ น. และ ๑๒.๐๐ น. เป็นเวลา ๑๐ นาที และเดินทางต่อไปยังเกาะเต่า ถึงเกาะเต่าเวลา ๑๓.๓๐ น.
เกาะพะงัน-เกาะเต่า ระยะทาง ๔๕ กิโลเมตร มีเรือออกจากเกาะพะงัน ที่ท่าเรือท้องศาลา เวลา ๑๒.๐๐ น.
ถึงเกาะเต่า ที่ท่าเรือบ้านแม่หาด เวลา ๑๓.๓๐ น.
- ชุมพร-เกาะเต่า ระยะทาง ๗๕ กิโลเมตร มีเรือออกจากท่าเรือท่ายาง เวลา ๐๗.๐๐ น. ถึงเกาะเต่า เวลา ๙.๓๐ น. และ เรือออกจากเกาะเต่า เวลา ๑๔.๓๐ น. ถึงชุมพร เวลา ๑๗.๓๐ น. สอบถามข้อมูลได้ที่ บริษัท ส่งเสริมรุ่งเรือง กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๗๘๙๗ ชุมพร โทร. ๐ ๗๗๕๐ ๖๒๐๕ เกาะเต่า โทร. ๐ ๗๗๔๕ ๖๒๗๔ ท่าเรือเกาะพะงัน โทร. ๐ ๗๗๓๗ ๗๐๙๖
เรือนอน ให้บริการ ๒ เส้นทาง คือ
ชุมพร –เกาะเต่า เรือออกจากท่าเรือท่ายาง จังหวัดชุมพร เวลา ๒๔.๐๐ น. ถึงเกาะเต่า เวลา ๐๖.๐๐ น.
เกาะเต่า-ชุมพร เรือออกจากเกาะเต่า เวลา ๑๐.๐๐ น. ถึงชุมพร เวลา ๑๕.๐๐ น. ค่าโดยสารคนละ ๔๐๐ บาท
สุราษฎร์ธานี-เกาะเต่า เรือออกจากท่าเรือเทศบาล จังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา ๒๐.๐๐ น. ถึงเกาะเต่า เวลา ๐๘.๐๐ น. เกาะเต่า-สุราษฎร์ธานี เรือออกจากเกาะเต่า เวลา ๒๑.๐๐ น. ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี เวลา ๐๒.๐๐ น.
เรือธรรมดา จากเกาะเต่า-เกาะพะงัน มีบริการวันละ ๑ เที่ยว เรือออกจากเกาะเต่า เวลา ๑๔.๓๐ น. ขากลับจากเกาะพะงัน มีเรือออกเวลา ๑๒.๐๐ น. ใช้เวลาเดินทาง ๓ ชั่วโมง
เรือเร็ว (Speed Boat)
เกาะพะงัน-เกาะเต่า เรือออกจากเกาะพะงัน (ท่าเรือท้องศาลา) เวลา ๐๘.๓๐ น. ๑๓.๐๐ น. ถึงเกาะเต่า (ท่าเรือบ้านแม่หาด) เวลา ๐๙.๔๕ น. และ ๑๔.๑๕ น.
เกาะเต่า-เกาะพะงัน เรือออกจากเกาะเต่า เวลา ๐๙.๓๐ น. ถึง เกาะพะงัน เวลา ๑๐.๔๕น.
- เกาะเต่า-ชุมพร เรือออกจากเกาะเต่า เวลา ๑๔.๔๕ น. ถึงท่าเรือท่ายาง จังหวัดชุมพร เวลา ๑๖.๓๐ น.
ชุมพร-เกาะเต่า เรือออกจากชุมพร เวลา ๐๗.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐ น. ถึงเกาะเต่า เวลา ๐๘.๔๕ น. ๑๔.๔๕ น.
- เกาะสมุย-เกาะเต่า เรือออกจากเกาะสมุย ท่าเรือแม่น้ำ เวลา ๐๘.๐๐ น. ถึงเกาะเต่า เวลา ๐๙.๔๕ น.
หมายเหตุ: เวลาเดินเรือและค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถสอบถามข้อมูลการเดินเรือได้ที่
บริษัท ลมพระยา คาตามารัน โทร. ๐ ๗๗๔๕ ๖๑๗๖
บริษัท พระใหญ่ สปีด เฟอร์รี่ โทร. ๐ ๗๗๔๕ ๖๒๖๔
บริษัท ส่งเสริมรุ่งเรือง โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๐๑๕๗
อำเภอวิภาวดี
อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ครอบคลุมพื้นที่ ๕๔๑ ตารางกิโลเมตร หรือ ๓๓๘,๑๒๕ ไร่ บริเวณอำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา อำเภอท่าฉาง และอำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฏร์ธานี บริเวณอุทยานฯ มีแก่งขนาดใหญ่เรียกกันว่า “เชี่ยวกรุง หรือ แก่งกรุง” ลักษณะเป็นหินผุดโผล่ขวางสายน้ำ แก่งกรุงถือเป็นแก่งน้ำที่น่าเล่นที่สุดในเส้นทางล่องเรือยาง สองฝั่งปกคลุมด้วยป่าดงดิบชื้น ตามทางเดินเลียบคลองยัน นอกจากจะมีมุมสวยหลายจุด ยังพบพรรณไม้น่าสนใจ และร่องรอยของสัตว์ป่า ตามผืนทรายริมน้ำ
การเดินทาง จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาตามทางหลวงหมายเลข ๔๑ ก่อนถึงอำเภอท่าฉาง เลี้ยวขวาบริเวณแยกควนรา สู่อำเภอวิภาวดี ระยะทาง ๒๖ กิโลเมตร จากอำเภอวิภาวดี ไปต่ออีกราว ๔ กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาเข้าศูนย์ศิลปาชีพบ้านท่านหญิง สุดถนนลาดยาง จะพบสามแยก เลี้ยวซ้ายไปตามทางลูกรัง อีกประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ที่ทำการอุทยานฯ อยู่ซ้ายมือ บริเวณบ้านคลองน้ำใส
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ตู้ ปณ.๙๓ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๘๔๐๐๐ โทร. ๐ ๑๔๓๘ ๐๙๖๒ หรือศูนย์ข้อมูลอุทยานแห่งชาติ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร. ๐ ๗๗๒๐ ๕๖๗๗-๘
น้ำตกวิภาวดี เป็นน้ำตกมีต้นน้ำกำเนิดจากเทือกเขาแดน และไหลลงมาตามลำน้ำคลองพาย น้ำตกมีจำนวน ๙ ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงและสวยงามมาก ชั้นที่สวยงามที่สุดได้แก่ น้ำตกชั้นที่ ๒ ซึ่งเป็นหน้าผาน้ำตกที่น้ำไหลลงมาแรงมากและมีแอ่งสำหรับเล่นน้ำได้ ความสูงประมาณ ๑๕-๒๐ เมตร บริเวณน้ำตกเป็นเขตป่าสงวนอุดมไปด้วยไม้ใหญ่หลายชนิดให้ความชุ่มชื่นควรแก่การพักผ่อน ช่วงที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว ได้แก่เดือนมกราคม-เมษายน และสำหรับแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจ ได้แก่ กิจกรรมล่องแก่งคลองยัน และอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง หากสนใจที่จะพักสามารถติดต่อบ้านพักของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน และบริเวณน้ำตกสามารถที่จะทำกิจกรรมและกางเต็นท์ได้
การเดินทางสู่น้ำตกวิภาวดี อยู่ห่างจากอำเภอวิภาวดีไปทางทิศตะวันตก ตามถนนสาย รพช.อำเภอวิภาวดี-คีรีรัฐนิคม และแยกทางขวามือปากทางเข้าน้ำตกที่บ้านเชี่ยวมะปราง หมู่ที่ ๒ ตำบลตะกุกใต้ รวมระยะทางประมาณ ๒๐ กิโลเมตร สภาพถนนเป็นดินลูกรังและลาดยางบางส่วน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลตะกุกใต้ โทร. ๐ ๗๗๓๑ ๙๐๑๙
การดูแลสุขภาพด้วยการบำบัด (สปา และทรีทเม้นต์)
เกาะสมุย
ศูนย์สุขภาพสมุนไพร ๘๕ หมู่ ๕ ต.อ่างทอง บ้านบางมะขาม เป็นศูนย์บริการดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรแบบโบราณ มีทั้งการอบ นวด ในบรรยากาศแบบพื้นบ้านร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ครึ้ม และยังมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรจำหน่าย สอบถามรายละเอียด โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๑๓๑๑ โทรสาร ๐ ๗๗๔๒ ๑๓๑๑ เปิดทุกวัน เวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น.
บ้านสบาย หาดบางรัก เป็นสถานบริการดูแลสุขภาพ โดยวิธีการนวดตัว นวดเท้า อบสมุนไพรแบบไทย ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ ทิวทัศน์ท้องทะเลที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สอบถามข้อมูล โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๘๒๐๐ โทรสาร ๐ ๗๗๔๒
๘๒๕๐ www.ban-sabai.com
แทมมาริน สปริงค์ หาดละไม บริการดูแลสุขภาพด้วยการนวดตัว นวดเท้า อบสมุนไพรแบบโบราณภายในห้องอบ
ใต้ก้อนหินใหญ่ ที่ดูกลมกลืนกับธรรมชาติท่ามกลางป่าเขาและต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น สอบถามข้อมูล โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๔๒๒๑
เนเชอรัล วิงก์ สปา แอนด์ รีสอร์ท หาดบางปอ มีบริการนวดตัว นวดหน้า นวดเท้าตามแบบไทย ๆ อบสมุนไพรไทย ในบรรยากาศสบาย ๆ สนใจติดต่อ โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๐๘๗๑-๒, ๐ ๑๙๒๒ ๕๑๖๑, ๐ ๑๙๒๓ ๒๒๗๙ หรือ www.naturalwing.com
นอกจากนั้น โรงแรมต่าง ๆ บนเกาะสมุยก็มีบริการด้านสปา การนวดตัว นวดเท้า อบสมุนไพรแบบไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับความสุขสบายจากการพักผ่อนและผ่อนคลายจากความเครียด
เทศกาลงานประเพณี
ประเพณีชักพระหรือลากพระ จัดขึ้นในวันออกพรรษา (แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑) แต่ละวัดจะทำบุษบกหรือพนมพระ ตกแต่งอย่างสวยงาม ตรงกลางบุษบกเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ตามคติทางพุทธศาสนาแล้วให้ประชาชนลากไป เมื่อเสร็จพิธีลากพระ (ทั้งบนบกและในน้ำ) จะนำพระไปทำความสะอาดแล้วมีพิธีสงฆ์สมโภชพระลากในตอนค่ำ โดยจะมีพระสงฆ์มาเทศน์เกี่ยวกับการเสด็จของพระพุทธเจ้า จากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ลงสู่โลกมนุษย์
งานวันเงาะโรงเรียน จัดขึ้นประมาณ ๒๑-๒๗ กรกฎาคมของทุกปี เพื่อนำผลิตผลเงาะโรงเรียน และผลิตผลทางการเกษตรอื่นๆ มาแสดงและจำหน่าย
กีฬาพื้นเมือง
กีฬาชนควาย ที่เกาะสมุยมีลักษณะคล้ายกับกีฬาชนวัวของจังหวัดสงขลา จะจัดขึ้นในโอกาสที่มีงานมงคล หรือ
เทศกาลต่างๆ เช่นตรุษสงกรานต์ และวันขึ้นปีใหม่
สินค้าของฝากและของที่ระลึก
ไข่เค็มไชยา ที่อำเภอไชยา เป็นไข่เค็มที่มีชื่อเสียงกล่าวขวัญกันทั่วไป เมื่อก่อนชาวอำเภอไชยามีอาชีพเลี้ยงเป็ดกันมาก ทำให้ไข่เป็ดราคาถูกและล้นตลาด จึงคิดวิธีที่จะรักษาให้ไข่เป็ดอยู่ได้นาน จึงได้ทำเป็นไข่เค็มเป็นที่รู้จักจนถึงปัจจุบัน ไข่เค็มไชยามีลักษณะ ไข่แดงสด รสชาดอร่อย และไม่คาวเหมือนไข่เป็ดทั่วไป ติดต่อได้ที่กลุ่มผลิตและจำหน่ายไข่เค็มไชยา โทร. ๐ ๗๗๓๔ ๑๗๒๑ ชมรมไข่เค็มทิพวรรณ โทร. ๐ ๗๗๔๓ ๑๕๘๐
ผ้าไหมพุมเรียง ที่ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา การทอผ้าไหมพุมเรียงเป็นงานหัตถกรรมที่ทำกันในหมู่บ้านไทยมุสลิม โดยใช้ไหม ซึ่งสั่งซื้อจากกรุงเทพฯ นิยมทอด้วยกี่กระตุก ลวดลายที่นิยมทอได้แก่ ลายราชวัตร ลายดอกพิกุล ลายนพเก้า ลายยกเบ็ด ซึ่งเป็นการที่ได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษจากการทอ เพื่อถวายแก่ขุนนางในอดีต ต่อมาได้มีการปรับปรุงพัฒนารูปแบบลวดลายตามตลาด สอบถามข้อมูลได้ที่ กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองพุมเรียง โทร. ๐ ๗๗๔๓ ๑๓๕๙
ผลิตภัณฑ์จักสานเชือกกล้วยบ้านควนยูง มีผลิตภัณฑ์กระเป๋าสะพาย กระเป๋าถือ โคมไฟที่ใส่กระดาษทิชชู ฯลฯ ทำมาจากเชื่อกกล้วยตานี ผ่านการฆ่าเชื้อรา มีความเหนียวทนทาน ติดต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์เชือกกล้วย โทร. ๐ ๗๗๒๑ ๑๓๖๗
ผ้าทอท่ากระจาย เริ่มจากการทอผ้าใช้ในครัวเรือน ต่อมาได้มีการพัฒนาลวดลายให้มีความหลากหลาย สวยงามเป็นเอกลักษณ์และทันสมัย ได้รับรางวัลชนะเลิศในงานประกวดผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ภาคใต้ปี ๒๕๔๖ ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ กลุ่มทอผ้าท่ากระจาย อำเภอท่าชนะ โทร. ๐ ๗๗๓๘ ๑๓๙๕
ผีเสื้อใบยางพารา ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจภาคใต้ ใช้ประโยชน์ได้เฉพาะไม้ยางและน้ำยางใบร่วงรกมาก จึงคิดค้นวิธีแปรรูป พบว่าเมื่อฟอกใบเส้นใยสวยงาม นำมาประดิษฐ์เป็นของที่ระลึก เช่น ผีเสื้อ ดอกไม้ เป็นต้น มีจำหน่ายที่กลุ่มแม่บ้านเกษตรควนสุบรรณ อำเภอบ้านนาสาร โทร. ๐ ๗๗๒๖ ๓๔๙๓
ผลิตภัณฑ์จักสานจากกระจูด ในพื้นที่มีทุ่งกระจูดจำนวนมาก ผู้สูงอายุนำกระจูดมาสานเป็นเสื่อใช้ปูพื้นต่อมา จึงรวมกลุ่มแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่าง ๆ โดยภูมิปัญญาในพื้นที่จนได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านหัตถกรรมในปี ๒๕๔๕ ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมทั้งในและนอกประเทศ ติดต่อสอบถามได้ที่ กลุ่มผลิตภัณฑ์จักสานกระจูดท่าสะท้อน บ้านบ่อกรัง ตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน โทร. ๐ ๗๗๒๙ ๔๐๐๘
กาละแม เป็นขนมโบราณ มีน้ำกะทิเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งเกาะสมุยเป็นเกาะที่อุดมไปด้วยมะพร้าว จึงได้ผลิตและจำหน่ายในพื้นที่จนเป็นที่นิยมกันทั่วไป กาละแมเกาะสมุยมีรสชาดหอม หวาน มันเหมาะสำหรับเป็นของฝาก สอบถามข้อมูลได้ที่ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ตำบลลิปะน้อย โทร. ๐ ๗๗๔๒ ๓๒๔๕, ๐๘ ๙๘๗๔ ๑๖๙๐
หอยนางรม ตำบลกะแดะ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อยู่ติดบริเวณปากน้ำ จึงมีหอยนางรมชุกชุม ซึ่งมีการนิยมเพาะเลี้ยงในบริเวณอ่าวบ้านดอนเป็นจำนวนมาก เป็นหอยที่มีรสชาดดี ขาวนวล อ้วนสะอาด และมีประโยชน์ นิยมรับประทานสด ๆ หรือจะนำมาทำไข่เจียวหอยนางรม ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ชมรมกลุ่มผู้เลี้ยงหอยนางรม โทร. ๐ ๗๗๒๔ ๔๖๒๘, ๐๘ ๑๔๑๕ ๔๑๒๓
ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป อำเภอดอนสัก เนื่องจากดอนสักเป็นอำเภอที่อยู่ริมฝั่งทะเลอ่าวไทยที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารสด ๆ จากทะเล ชาวบ้านได้รวมกลุ่มกันนำอาหารทะเลมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แก่ ปลาจิ้งจังสามรส ปลาหยอง หมึกสามรส ไตปลา กะปิ กุ้งแห้ง หมึกกะตอยแห้ง ฯลฯ เพื่อง่ายต่อการรับประทานและการเก็บรักษา ติดต่อสอบถามได้ที่ กลุ่มแม่บ้านประมงอำเภอดอนสัก โทร. ๐ ๗๗๓๗ ๑๓๗๘-๙
ผลิตภัณฑ์ไม้มะพร้าว เกาะสมุยเป็นเกาะที่อุดมไปด้วยต้นมะพร้าวจำนวนมาก และมีการโค่นเพื่อใช้ประโยชน์จากที่ดิน และนำไม้มะพร้าวใช้ในการก่อสร้าง ต่อมาได้คิดแปรรูปเป็นของที่ระลึกของใช้ต่าง ๆ เช่น ถ้วย จาน แก้วน้ำ ชุดกาแฟ และของใช้อื่น ๆ ที่สวยงาม แข็งแรง ทนทาน สอบถามข้อมูลได้ที่คุณสายัณห์ สมคะเน โทร. ๐ ๗๗๒๓ ๔๓๘๖
ข้อแนะนำนักท่องเที่ยว
ฝึกหัดและใช้อุปกรณ์ดำน้ำให้ชำนาญ ชมปะการังเฉพาะจุดที่ผู้นำทางกำหนด
ไม่ดำน้ำช่วงที่มีแสงสว่างน้อยหรือช่วงน้ำลง
- ไม่เก็บปะการัง กัลปังหา เปลือกหอย และไม่ซื้อของที่ระลึกที่ทำจากปะการัง กัลปังหา
ใส่เสื้อชูชีพ หมวกกันน็อค ตรวจสอบแพ/เรือให้พร้อม ก่อนล่องแพ
- สอบถามข้อมูล/จองที่พักจากกรมป่าไม้ หรืออุทยานฯ ล่วงหน้า ๓๐ วัน
ศึกษาฤดูกาลของธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ นกอพยพ
ขอเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ (เส้นทางซับซ้อน/ป่าทึบ)
สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ไข่เค็มไชยา ที่อำเภอไชยา เป็นไข่เค็มที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป การทำไข่เค็มไชยา ใช้ไข่เป็ดจากอำเภอไชยา มีไข่แดงมากและไม่คาวเหมือนไข่เป็ดทั่วไป จากนั้นเอาดินจากจอมปลวกมาตำให้ละเอียด ร่อนเอาเฉพาะที่ละเอียด แยกเอากรวด ทราย ออกให้หมด คลุกด้วยน้ำและเกลือให้ดินค่อนข้างเหนียว แล้วเอาดินนี้หุ้มไข่เป็ด หลังจากนั้นนำไปคลุกกับขี้เถ้าแกลบ แล้วนำมาบรรจุหีบห่อเพื่อจำหน่าย มีฉลากบอกระยะเวลาไว้ว่าเมื่อใดเหมาะสำหรับทอดไข่ดาว เมื่อใดเหมาะสำหรับต้ม
ขนมจั้ง นิยมทำกันมากในอำเภอไชยา ประกอบด้วยข้าวเหนียว น้ำ และน้ำด่าง โดยนำข้าวเหนียวแช่น้ำด่างประมาณ ๓-๕ ชั่วโมง จากนั้นนำข้าวเหนียวมาห่อด้วยใบไผ่แนะ แล้วนำจั้งไปต้มจนกว่าจะสุก รับประทานกับน้ำเชื่อม หรือน้ำกะทิก็ได้
ผ้าไหมพุมเรียง เป็นงานหัตถกรรมที่ทำกันในหมู่บ้านไทยมุสลิม เข้าใจว่าแต่เดิมคงเป็นพวกแขกที่อพยพ หรือถูกกวาดต้อนมาจากไทรบุรี พร้อมๆ กับช่างทอผ้าที่เมืองนครศรีธรรมราช บ้างก็สันนิษฐานว่า ไทยมุสลิมที่พุมเรียงอาจจะเป็นชาวปัตตานี เพราะอารยธรรมสูงกว่าที่อื่น แล้วมาอาศัยอยู่ที่ตำบลพุมเรียง การทอผ้าพุมเรียง ชาวบ้านไม่ได้เลี้ยงไหมเอง ไหมที่ใช้ทอเป็นไหมจากญี่ปุ่น และสั่งซื้อจากกรุงเทพฯ นิยมทอผ้าด้วยกี่กระตุก ลวดลายต่างๆ ที่ประดิษฐ์ขึ้นเป็นของชาวบ้านพุมเรียง มี ๕ ลาย ได้แก่ ลายราชวัตร ลายดอกพิกุล ลาบดอกโคม ลายนพเก้า และลายยกเบ็ด
หมวกพุมเรียง หมวกพุมเรียงเป็นงานหัตถกรรม ที่ชาวพุมเรียงทำสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าเริ่มทำกันมาตั้งแต่สมัยใด รู้แต่ว่าทำกันมากในกลุ่มของชาวพุทธ ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา การทำหมวกพุมเรียงทำจากวัสดุหลายอย่างด้วยกันคือ ปอแก้ว ใบลาน หรือใบตาล ลักษณะของหมวกพุมเรียงที่แปลกไปจากหมวกสานของที่อื่นคือ การสานจะเป็นลักษณะเส้นยาวก่อนแล้วจึงนำมาเย็บเป็นรูปทรงหมวกภายหลัง ซึ่งหมวกลักษณะนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า หมวกรานี
ผลิตภัณฑ์จากใบยางพารา ที่อำเภอบ้านนาสาร ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ผีเสื้อ ดอกไม้ เป็นต้น มีจำหน่ายที่กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรอำเภอบ้านนาสาร สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านนาสาร โทร. ๐ ๗๗๓๔ ๑๑๑๐, ๐ ๗๗๒๖ ๓๔๙๓
ผลิตภัณฑ์จากกระจูด โดยกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน มีผลิตภัณฑ์หลายแบบ เช่น กระเป๋า หมวก แฟ้มใส่เอกสาร
หอยขาวพุมเรียง เป็นอาหารทะเลที่มีชื่อเสียงของอำเภอไชยา สามารถหาบริโภคได้เฉพาะที่พุมเรียงเท่านั้น
หอยนางรม หอยนางรมสุราษฎร์ธานีเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่นักบริโภคว่า สด ตัวใหญ่ รสหวาน เนื้อในขาว มีคุณค่าทางอาหารสูง หอยนางรมเริ่มเพาะเลี้ยงประมาณปี ๒๕๐๔ ทดลองเลี้ยงที่แหลมซุย อำเภอไชยา ต่อมาได้เพาะเลี้ยงที่บริเวณปากคลองท่าทอง และปากคลองกะแดะ อำเภอกาญจนดิษฐ์ หอยนางรมมี ๒ ชนิดคือ ชนิดพันธุ์เล็ก เรียกว่าหอยเจาะ ชนิดพันธุ์ใหญ่ เรียกว่าหอยตะโกรม ลักษณะเป็นหอย ๒ ฝา พบทั่วไปบริเวณน้ำตื้นชายฝั่ง หอยนางรมจะออกวางไข่ตลอดปี แต่จะมีมากในเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน หอยนางรมจะวางไข่ครั้งหนึ่งประมาณ ๑-๙ ล้านฟอง
เงาะพันธุ์โรงเรียน ของอำเภอบ้านนาสารเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีรสชาติหวานและกรอบ ผลโต เนื้อแห้ง เปลือกบาง
ขนมจีน เป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของสุราษฎร์ธานีอีกชนิดหนึ่ง หารับประทานได้ง่ายบริเวณตลาดวัดไทร ในตอนกลางคืน
ขนมจิ้นแด้ เป็นขนมที่ทำจากแป้ง ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ข้างในมีไส้ถั่วเหลืองนำไปทอดและคลุกงา รสชาติอร่อย หาซื้อได้บริเวณตลาดวัดไทรในช่วงตอนกลางคืน
สะตอ เป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะที่อำเภอคีรีรัฐนิคม จะมีมากในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
ขอขอบคุณข้อมูล และรายละเอียดจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย